หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% และส่งสัญญาณเปิดทางให้มีการลดดอกเบี้ยต่อเพิ่มเติม ราคา *บิตคอยน์(BTC)* ก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมส่งสัญญาณกลับมาทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง การตัดสินใจดังกล่าวช่วยคลายความไม่แน่นอนในตลาด และฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ในภาพรวมรายวัน ราคาบิตคอยน์ดีดกลับจากโซนแนวรับที่ราว 107,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.49 ล้านบาท) โดยทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันบริเวณ 113,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.57 ล้านบาท) ส่งผลให้โมเมนตัมขาขึ้นยังคงแข็งแกร่ง ในเชิงเทคนิค ดัชนี RSI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50% บ่งชี้ว่าแรงซื้อยังได้เปรียบ *คำ: บิตคอยน์* ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่า หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป ราคาก็มีโอกาสกลับไปแตะระดับเดิมที่ 124,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.72 ล้านบาท) และอาจทะยานสู่ระดับ 130,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.80 ล้านบาท) ในระยะยาว
ในกราฟ 4 ชั่วโมง บิตคอยน์ได้ทะลุช่องแนวโน้มขาลงระยะสั้น และสร้างรูปแบบ ‘ดับเบิลบอททอม’ บริเวณ 108,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.50 ล้านบาท) ก่อนดีดตัวขึ้น ปัจจุบันราคากำลังเบรกผ่านแนวต้านด้านสภาพคล่องที่โซน 107,000 ดอลลาร์ ซึ่งช่วยหนุนโมเมนตัมขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวต้านระยะสั้นที่ระดับ 112,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.55 ล้านบาท) จากแรงขายทำกำไรบริเวณดังกล่าว ถึงแม้เช่นนั้น RSI ยังไม่เข้าสู่เขต *คำ: Overbought* ทำให้ยังมี ‘ความเป็นไปได้’ ที่ราคาจะขยับขึ้นต่อได้
ด้านสัญญาณความเชื่อมั่นในตลาด ดัชนี ‘Open Interest’ ของสัญญาบิตคอยน์ในทุกตลาดซื้อขายยังคงทรงตัว แม้เผชิญแรงเทขายระยะสั้น สะท้อนว่าการเก็งกำไรในตลาดโดยใช้เลเวอเรจยังคงดำเนินอยู่ และนักลงทุนยังคงถือฝั่งซื้ออย่างแข็งแกร่งในภาพรวม *ความคิดเห็น*: แม้ตลาดจะยังเป็นขาขึ้น แต่ก็ไม่สามารถตัดความเสี่ยงจากการถูกเทขายฉับพลันหรือ ‘Flash Crash’ ได้หากปริมาณเลเวอเรจสูงเกินควบคุม
สรุปแล้ว การลดดอกเบี้ยของ Fed และความเป็นไปได้ที่ดอกเบี้ยจะลดลงอีกครั้ง ทำให้ *ตลาดคริปโต* โดยเฉพาะบิตคอยน์ได้รับแรงหนุนครั้งใหม่ การวิเคราะห์ทางเทคนิคและสัญญาณจากตลาดบ่งชี้ถึง *แนวโน้มขาขึ้นระยะยาวที่ยังไม่จบ* แม้จะมีโอกาสเกิดแรงเทขายระยะสั้นในบางช่วง
ความคิดเห็น 0