นักวิเคราะห์เตือน บิตคอยน์(BTC) เสี่ยงปรับฐาน หลังผู้ถือระยะยาวลดการถือครองเหลือ 71.92%

นักวิเคราะห์เตือน ตลาดบิตคอยน์(BTC) อาจเผชิญแรงกดดันรอบใหม่ หลังผู้ถือครองระยะยาวเริ่มลดปริมาณการถือครองลง ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนอย่าง Glassnode ระบุว่า ปริมาณการถือครองของกลุ่มที่ถือครองบิตคอยน์มากกว่า 155 วัน หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ผู้ถือระยะยาว (Long-term holders - LTH)’ ลดลงจาก 14.8 ล้าน BTC ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม เหลือ 14.3 ล้าน BTC ณ เดือนธันวาคม ส่งผลให้สัดส่วนของผู้ถือระยะยาวจากอุปทานในตลาดลดลงเหลือเพียง *71.92%* ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่บิตคอยน์อาจจะปรับฐานลงต่ำถึงระดับ *68,500 ดอลลาร์* หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่สำคัญได้ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า การลดลงของราคาในรอบนี้อาจเป็น *โอกาสในการเข้าซื้อ* เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในต้นปีที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 มกราคม (เวลาท้องถิ่น) ซึ่งเป็นวันสาบานตนของประธานาธิบดีทรัมป์ ราคา *บิตคอยน์* พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ *109,000 ดอลลาร์* ก่อนจะปรับฐานรุนแรงลงมาแตะระดับ *74,000 ดอลลาร์* ในช่วงเดือนต่อมา โดยกลุ่มผู้ถือระยะยาวได้เข้าช้อนซื้อที่ราคาต่ำ ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองของพวกเขาฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ *76%* ในเดือนกรกฎาคม และช่วยหนุนให้ราคาบิตคอยน์ทะยานขึ้นแตะ *123,000 ดอลลาร์* ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ในเวลานั้น

ขณะนี้นักลงทุนบางส่วนเริ่มมองว่าราคาบิตคอยน์ที่ลดลงมาแตะระดับ *84,000 ดอลลาร์* อาจเป็น *จุดเข้าซื้อที่น่าสนใจ* อีกครั้ง หากกลุ่มผู้ถือระยะยาวกลับเข้ามาซื้อในช่วงนี้ ก็อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการฟื้นตัวรอบใหม่ และมีโอกาสที่ราคาจะทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า

ข้อมูลล่าสุดสะท้อนว่า การเคลื่อนไหวของ *ผู้ถือระยะยาว* ไม่ได้ส่งผลเพียงแค่ในระยะสั้น แต่อาจมีอิทธิพลต่อแนวโน้มในระยะกลางถึงยาวด้วยเช่นกัน การติดตามพฤติกรรมและจังหวะเข้าซื้อของกลุ่มนี้จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรจับตา เพราะอาจเป็น ‘ต้นสัญญาณ’ ของแนวโน้มขาขึ้นในอนาคต

*ความคิดเห็น*: แม้แนวโน้มในระยะสั้นดูจะไม่แน่นอน แต่ระดับราคาต่ำล้านต้นอาจกลายเป็นฐานใหม่ให้กลุ่มผู้ถือระยะยาวกลับมาสร้างแรงซื้ออีกรอบ พร้อมวัฏจักรซ้ำรอยเดิมที่เกิดขึ้นมาแล้วในช่วงต้นปีนี้