โทเคนเพนกวิน(PENGU) ส่งสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค หลังยืนยันแนวรับสำคัญและพลิกกลับเป็นขาขึ้น โดยราคาปัจจุบันอยู่ในระดับที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่ายังมีโอกาส ‘พุ่งขึ้นเกือบสองเท่า’ จากจุดปัจจุบัน ทำให้ตลาดหันมาให้ความสนใจอย่างชัดเจน
เมื่อวันที่ 18 (เวลาท้องถิ่น) โทเคนเพนกวินมีราคาขยับขึ้นประมาณ 10% แตะระดับ 0.037 ดอลลาร์ (ราว 51 บาท) ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายแตะ 528 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7,339 ล้านบาท) โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โทเคนเพิ่มขึ้นกว่า 9% ทำให้ ‘อัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยงระยะสั้น’ ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ การวิเคราะห์กราฟเทคนิคชี้ว่า โทเคนได้ทะลุเส้นแนวโน้มขาลงที่เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และกลับมายืนเหนือระดับ 0.032 ดอลลาร์ (ประมาณ 44 บาท) ซึ่งถือเป็น ‘สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น’ ที่สำคัญ
อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) นักวิเคราะห์ตลาดคริปโตรายหนึ่ง ระบุผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลว่า “การรีเทสต์แนวรับเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ” และเสริมว่า “เป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 0.090 ดอลลาร์ (ราว 125 บาท) ขณะที่การพุ่งขึ้นครั้งนี้ เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น” โดยหากใช้โซนแนวต้านจากฟิโบนักชีเป็นแนวทาง ราคาเป้าหมายระดับกลางจะอยู่ที่ 0.047 ดอลลาร์ (65 บาท), 0.064 ดอลลาร์ (89 บาท) และ 0.076 ดอลลาร์ (106 บาท) และหากมีกระแสมากพอ อาจทะลุไปถึง 0.096 ดอลลาร์ (133 บาท)
นักวิเคราะห์จากช่อง ‘Bitcoinsensus’ ได้เน้นถึง *รูปแบบ ‘ธงกระทิง’ (Bullish Flag)* ที่กำลังก่อตัวในกราฟของเพนกวิน พร้อมระบุว่า “รูปแบบนี้มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของการวิ่งรอบใหม่” เขายังกล่าวอีกว่า “กระแสการสะสมซื้อที่แข็งแกร่งกำลังเกิดขึ้น และหากราคาทะลุแนวต้านบนของรูปแบบนี้ ก็มีโอกาสไปแตะ 0.074 ดอลลาร์ (103 บาท) ได้ไม่ยาก”
เครื่องมือวัดโมเมนตัมอย่าง MACD และ Stochastic RSI ต่างก็สนับสนุนแนวโน้มบวกนี้ โดย MACD ตัดเส้นสัญญาณขึ้นและฮิสโตแกรมเปลี่ยนเป็นบวก ในขณะที่ Stochastic RSI อยู่ที่ระดับ 78 และ 66 แม้ใกล้เขตซื้อมากเกินไป แต่ก็ยังบ่งชี้ว่า ‘ยังมีแรงซื้อเหลืออยู่’ แสดงถึง *ความต่อเนื่องของพลังตลาดฝั่งซื้อ* แม้อาจต้องเผชิญกับแรงขายปรับฐานในระยะสั้น
ขณะเดียวกัน โครงการเพนกวินก็เริ่มมีบทบาทในแวดวงการเงินดั้งเดิมมากขึ้น โดยทีมผู้พัฒนาเปิดเผยว่า ในรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) อย่างบูลลิช(Bullish) ได้มีการกล่าวถึงโทเคนเพนกวินอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ทั้งนักลงทุนสถาบันและสาธารณชนได้รับรู้ถึงโครงการมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ *มูลค่าโทเคนได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากความชอบธรรมภายนอก*
เมื่อนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ทั้งมุมมองทางเทคนิค รูปแบบกราฟ และจิตวิทยาตลาด ดูเหมือนว่าเพนกวินกำลังอยู่ในช่วง ‘หัวเลี้ยวหัวต่อ’ สำคัญ โดยผู้เล่นในตลาดต่างเฝ้ารอว่า ราคาจะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่รออยู่ข้างหน้าได้หรือไม่
ความคิดเห็น 0