ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว โดยในแต่ละวินาทีมีข้อมูลหลั่งไหลเข้ามาหลายพันรายการ นักลงทุนยุคใหม่จึงไม่ได้แข่งขันกันที่การ ‘ค้นหา’ ข้อมูลอีกต่อไป แต่อยู่ที่ ‘การจับสัญญาณสำคัญในคลื่นข้อมูลมหาศาล’ ให้ได้ต่างหาก และหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์ในช่วงหลังคือโมเดลภาษาปัญญาประดิษฐ์อย่าง ‘ChatGPT’
ChatGPT พัฒนาไปไกลกว่าการเป็นแค่แชตบอตตอบคำถามทั่วไป ปัจจุบันหลายคนใช้มันเป็นเครื่องมือเสริมสำหรับการจับข้อมูล วิเคราะห์ตลาด และวางกลยุทธ์การลงทุน โดยสามารถนำข้อมูลจากแพลตฟอร์มกราฟเชิงเทคนิคอย่าง TradingView มารวมกับการวิเคราะห์จาก Glassnode หรือ Santiment ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มข้อมูลออนเชน เพื่อให้ ChatGPT ประมวลผลและให้แนวทางเชิงกลยุทธ์ได้ตั้งแต่ระดับภาพรวมไปยันรายละเอียดเชิงลึก
เทรดเดอร์หลายคนใช้ ChatGPT เป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนา ‘บอตเทรดอัตโนมัติ’, ‘การวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบมีโครงสร้าง’ หรือแม้แต่ ‘การสร้างฉากจำลองทดสอบกลยุทธ์(backtest)’ ทั้งนี้ AI ยังไม่สามารถทดแทนการตัดสินใจของมนุษย์ได้โดยสมบูรณ์ แต่ควรถูกใช้เพื่อ *เสริม* การตัดสินใจต่างหาก จึงยังมีข้อจำกัดเรื่องการเชื่อมต่อกับข้อมูลแบบเรียลไทม์ รวมถึงความจำเป็นในการออกแบบคำสั่งที่ชัดเจน และการตรวจสอบผลลัพธ์โดยผู้เชี่ยวชาญ
การใช้ ChatGPT อย่างมีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการหาข้อมูลที่ *น่าเชื่อถือ* โดย TradingView เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลที่สำคัญ ทั้งด้านราคาตลาดและปริมาณซื้อขาย พร้อมฟีเจอร์การวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบเรียลไทม์ เมื่อประกอบกับแหล่งข้อมูลข่าวอย่าง CoinDesk, Cointelegraph หรือรายงานวิเคราะห์จากสถาบันอย่าง JPMorgan และแบล็ครอก ซึ่งช่วยให้เห็นภาพรวมของ ‘เนื้อหาเชิงตลาด’ และสุดท้ายคือข้อมูลออนเชน เช่น การเคลื่อนไหวของวาฬคริปโต หรือจำนวนเหรียญที่ไหลเข้าออกจากกระดานเทรด ซึ่งช่วยวิเคราะห์ ‘สุขภาพระบบนิเวศของบล็อกเชน’
เมื่อมีโครงสร้างข้อมูลที่ดี เทรดเดอร์สามารถใช้ ChatGPT วิเคราะห์ตั้งแต่ระดับมหภาคไปจนถึงกลยุทธ์เฉพาะเจาะจง ยกตัวอย่างเช่น การใช้หัวข้อข่าวสำคัญของช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อคัดเลือก ‘เนื้อหาหลักของตลาด’ และวิเคราะห์ว่ามีโปรเจกต์หรือเหรียญใดที่ถูกจับตามองอยู่ในขณะนั้น
กรณีศึกษาล่าสุด เช่น ▲แบล็ครอกเปิดตัวกองทุนพันธบัตรแบบโทเคน โดยใช้โซลูชัน CCIP ของเชนลิงก์(LINK) ▲JPMorgan ประเมินว่า ‘ตลาดโทเคนสินทรัพย์จริง(RWA)’ มีศักยภาพเติบโตแตะ 10 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 1.39 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2030 ▲สำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐ หรือ SEC แสดงท่าทีชัดเจนต่อแนวทางกำกับดูแลตลาดโทเคนหลักทรัพย์ และ ▲เครือข่ายเฮลิอุมบันทึกการให้บริการ 5G ครอบคลุมกว่า 1,000 เมืองในสหรัฐ พร้อมกับปริมาณการเบิร์นเหรียญ HNT ที่เพิ่มสูงขึ้น
เมื่อรวมประเด็นเหล่านี้เข้าด้วยกัน คำสำคัญของตลาดในเวลานี้คือ ‘RWA โทเคน’, ‘AI เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน’ และ ‘ความชัดเจนทางกฎเกณฑ์ของโทเคนหลักทรัพย์’ ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของ AI ในการช่วยนักลงทุนวางกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วย *ข้อมูล* แทนแค่การวิเคราะห์กราฟแบบเดิม
แน่นอนว่า ChatGPT ไม่ได้สมบูรณ์แบบ ยังไม่สามารถทำงานร่วมกับข้อมูลเรียลไทม์ และเสี่ยงเกิดข้อผิดพลาดจากการพิมพ์คำสั่งผิดพลาด แต่หากมีการจัดระเบียบข้อมูลอย่างเหมาะสม และใช้ความสามารถของ AI ในการตีความภาษา ก็สามารถเป็นผู้ช่วยอันทรงพลังในการต่อยอดความสามารถมนุษย์ในสภาพตลาดที่ซับซ้อนอย่างคริปโต
‘อนาคตของการวิเคราะห์ตลาด’ อาจไม่ใช่เรื่องของตัวเลขอีกต่อไป แต่อยู่ที่ ‘การเข้าใจบริบท’ หาก TradingView เปรียบเสมือนตา ChatGPT ก็อาจเป็นสมอง และการจับคู่ระหว่างเครื่องมือทั้งสองนี้จะกลายเป็นหมุดหมายสำคัญ ที่ช่วยให้นักลงทุนมองเห็นสัญญาณในตลาดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0