Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อีเธอเรียม(ETH) เตรียมเปิดตัวอัปเกรด 'ฟูซากะ' 3 ธ.ค. ลดค่าธรรมเนียม L2 สูงสุด 73%

อีเธอเรียม(ETH) เตรียมเปิดตัวอัปเกรด 'ฟูซากะ' 3 ธ.ค. ลดค่าธรรมเนียม L2 สูงสุด 73% / Tokenpost

นักพัฒนาอีเธอเรียม(ETH) ประกาศอย่างเป็นทางการถึงกำหนดการเปิดตัวการอัปเกรดเครือข่ายครั้งถัดไปในชื่อ ‘ฟูซากะ(Fusaka)’ ซึ่งมีกำหนดปรับใช้บนเมนเน็ตวันที่ 3 ธันวาคม โดยจะเริ่มทดสอบบนแต่ละเทสต์เน็ตตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป การอัปเกรดครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่ม ‘ความสามารถในการขยายเครือข่าย’ ลด ‘ค่าธรรมเนียมในเลเยอร์ 2 (L2)’ และเสริมเสถียรภาพของโหนด ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจากการอัปเกรด ‘เดนคุน(Dencun)’ และ ‘เพกทรา(Pectra)’ ที่ผ่านมา

นักพัฒนาอีเธอเรียมเปิดเผยโรดแมปของฟูซากะในการประชุมชุมชน ACDC ครั้งที่ 165 โดยจะเริ่มทดสอบบนเครือข่ายโฮเลสกี(Holesky) วันที่ 1 ตุลาคม, เซโพเลีย(Sepolia) วันที่ 14 ตุลาคม และฮูดี(Hoodi) วันที่ 28 ตุลาคม ก่อนการเปิดใช้งานจริงในเดือนธันวาคม ปัจจุบัน กำลังอยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียดสุดท้ายอย่าง ‘หมายเลข epoch’ และ ‘เวลาเปิดใช้งานที่แน่นอน’ ซึ่งคาดว่าจะมีการยืนยันภายในไม่กี่วันข้างหน้า

การอัปเกรดฟูซากะจะรวมถึง EIP หรือ Ethereum Improvement Proposal จำนวน 11 รายการ โดยส่วนที่สำคัญได้แก่ ‘การใช้ PeerDAS เพื่อสุ่มตัวอย่างข้อมูล’ การปรับปรุงระบบป้องกันสแปม, ขยายขนาด blob และเพิ่มเพดาน gas limit เป็น 150 ล้านยูนิต ซึ่ง ‘คาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการประมวลผลธุรกรรม’ และช่วยให้ ‘ค่าธรรมเนียมของเลเยอร์ 2 ลดต่ำลงอย่างมาก’ ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า ขนาดของ blob มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายใน 2 สัปดาห์หลังการเปิดใช้งาน

คริสติน คิม(Christine Kim) อดีตรองประธานฝ่ายวิจัยของกาแล็กซี ดิจิทัล เปิดเผยบนบล็อกและ X ว่าการอัปเกรดฟูซากะนี้จะเป็นฮาร์ดฟอร์กที่มีการปรับเปลี่ยนขีดจำกัดของ blob อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากช่วงเริ่มต้น 1 สัปดาห์ที่เน้นความเสถียร จะมีการเพิ่มค่า ‘target/max’ จาก 6/9 เป็น 10/15 และขึ้นอีกครั้งเป็น 14/21 ในสัปดาห์ถัดไป

ฟูซากะยังถูกคาดหวังว่าจะมีบทบาทสำคัญในการ ‘ลดต้นทุนของระบบ L2’ โดยหลังจากการอัปเกรดเดนคุนในเดือนมีนาคม 2024 และเพกทราในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ค่าความพร้อมใช้งานของข้อมูล L2 ลดลงถึงเกือบ 90% รายงานระบุว่า ค่าจัดเก็บข้อมูลรายเดือนของบางโปรโตคอลลดลงจาก 15,000 ดอลลาร์ (ราว 2,085,000 บาท) เหลือเพียง 1,500 ดอลลาร์ (ราว 209,000 บาท) และ ‘ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมลดได้ถึง 73%’ สำหรับผู้ตรวจสอบในอีเธอเรียม การอัปเกรดผ่านเพกทรายังได้เปิดทางให้เพิ่มข้อจำกัดของผู้ตรวจสอบจาก 32 ETH เป็น 2,048 ETH ด้วย

ในอีกด้านหนึ่ง มูลนิธิอีเธอเรียมยังได้ประกาศจัดตั้งทีม ‘dAI Team’ เพื่อพัฒนาโครงการผสานระหว่าง AI และคริปโต ทีมนี้นำโดยนักพัฒนาดาวิเด คราปิส(Davide Crapis) ซึ่งระบุว่าเป้าหมายคือ ‘สร้างระบบที่ทำให้เอเยนต์ AI และหุ่นยนต์สามารถรับผิดชอบด้านการชำระเงินและการกำกับดูแลด้วยตนเอง’ ซึ่งจะเน้นเรื่อง ‘การต่อต้านการเซ็นเซอร์’ และ ‘ลดการพึ่งพาศูนย์กลาง’

ในระยะยาว ฟูซากะจะเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของ ‘ขั้นตอน Surge’ หรือแผนเร่งการขยายของอีเธอเรียม โดยจะเร่งความเร็วการประมวลผลผ่านการขยาย blob ปรับปรุงประสิทธิภาพของผู้ตรวจสอบ และนำ PeerDAS เข้ามาใช้งาน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการอัปเกรดขั้นต่อไป เช่น การรวม Verkle tree และลดเวลาในการสร้างบล็อกให้เร็วขึ้นในอนาคต

*คำสำคัญ*: ฟูซากะ, อีเธอเรียม, เลเยอร์ 2, blob, PeerDAS, Surge, ค่าธรรมเนียม, ฮาร์ดฟอร์ก, dAI ทีม

*ความคิดเห็น*: ฟูซากะอาจเป็นการเปลี่ยนเกมสำหรับเครือข่ายอีเธอเรียมอย่างแท้จริง ทั้งในแง่ประสิทธิภาพและต้นทุน

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1