สหภาพยุโรป(EU)เตรียมดำเนินมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ โดยรวมเอา ‘แพลตฟอร์มคริปโตเคอร์เรนซี’ ไว้ในรายชื่อเป้าหมายเป็น ‘ครั้งแรก’ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการรับมือกับความพยายามของรัสเซียในการเลี่ยงมาตรการทางเศรษฐกิจ โดยมาตรการล่าสุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของชุดคว่ำบาตรครั้งที่ 19 ที่มีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลของพลเมืองรัสเซียโดยตรง
เมื่อวันที่ 24 สหภาพยุโรปประกาศว่า มาตรการใหม่นี้จะ ‘ห้ามโดยสิ้นเชิง’ การใช้บริการคริปโตจากผู้ที่พำนักอยู่ในรัสเซีย พร้อมทั้ง ‘จำกัดธุรกรรมทางการเงิน’ ระหว่างธนาคารต่างชาติที่เชื่อมโยงกับระบบชำระเงินทางเลือกของรัสเซียด้วย อูร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน(Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวย้ำว่า “เมื่อเทคนิคเลี่ยงคว่ำบาตรมีความซับซ้อนมากขึ้น มาตรการของเราก็จำเป็นต้องพัฒนาให้เท่าทัน จึงเป็นเหตุผลที่ครั้งนี้เรา ‘เล็งเป้าหมายโดยตรง’ ไปยังแพลตฟอร์มคริปโต”
นอกจากนั้น EU ยังจะจำกัดกิจกรรมทางการเงินกับบริษัทใน ‘เขตเศรษฐกิจพิเศษ’ ของรัสเซีย เพื่อปิดเส้นทางที่รัสเซียอาจใช้คริปโตหรือระบบชำระเงินทางเลือกแทนกลไกสถาบันการเงินตามปกติ โดยไลเอินระบุเพิ่มเติมว่า “เราจะใส่ชื่อธนาคารต่างชาติที่เชื่อมโยงกับระบบทางเลือกของรัสเซียไว้ในบัญชีดำ และตัดวงจรการเงินของบริษัทในเขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านั้น”
สหภาพยุโรปดำเนินมาตรการนี้หลังพบหลักฐานการใช้คริปโตในสายปฏิบัติการต่าง ๆ ของรัสเซีย เช่น การจัดหาอะไหล่ด้านอาวุธ การผลิตโดรน และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางการเงินโดยตรงจากชาติตะวันตก ทำให้ EU ตัดสินใจเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุม ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ และปรับปรุงกลไกความร่วมมือระดับนานาชาติในระบบการเงินดิจิทัล
*ความคิดเห็น*: นักวิเคราะห์มองว่า มาตรการของ EU ครั้งนี้อาจสบัดแรงกระเพื่อมเป็นวงกว้างต่ออุตสาหกรรมคริปโตทั่วโลก โดยเฉพาะแรงกดดันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อ *แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก* ให้จำกัดการเข้าถึงของผู้ใช้งานจากรัสเซีย สะท้อนให้เห็นถึงท่าทีของสหภาพยุโรปที่ต้องการให้คริปโตเข้าสู่กรอบความร่วมมือระดับโลกในด้านกฎระเบียบทางการเงินอย่างจริงจัง
ความคิดเห็น 0