กองทุน ETF บิตคอยน์(BTC) ของแบล็คร็อก(BlackRock) กลายเป็นกองทุนที่ทำรายได้สูงสุดในบริษัทในเวลาอันสั้น โดยทำรายได้ประจำปีแตะระดับ 245 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,401 ล้านบาท) แม้จะเพิ่งเปิดตัวมาเพียง 22 เดือน
สินค้าการลงทุนที่เป็นประเด็น คือ ไอแชร์ส บิตคอยน์ ทรัสต์ ETF(IBIT) ซึ่งเมื่อวันที่ 22 นักวิเคราะห์ด้าน ETF ของแบล็คร็อกอย่าง *เอริก บัลชูนิส(Eric Balchunas)* เปิดเผยผ่าน X (ชื่อเดิมคือ Twitter) ว่า IBIT ทำรายได้ต่อปีแซงหน้า ETF ตัวเด่นอื่นของบริษัทอย่าง *ไอแชร์ส รัสเซล 1000 โกรท ETF(IWF)* และ *ไอแชร์ส MSCI EAFE ETF(EFA)* ได้เกินกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 348 ล้านบาท)
IBIT ขึ้นแท่น *กองทุน ETF ที่ทำรายได้สูงสุดของแบล็คร็อก* ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยยังเป็นกองทุนเดียวในกลุ่ม ETF ชั้นนำ 12 อันดับแรกของแบล็คร็อกที่มีอายุไม่ถึงสิบปี ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่หาได้ยากในประวัติศาสตร์ของบริษัท
บัลชูนิสยังเปิดเผยข้อมูลอีกว่า ปัจจุบันสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของ IBIT ขยับเข้าใกล้ระดับ *100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 139,000 ล้านบาท)* โดยมีมูลค่าล่าสุดอยู่ที่ 97,780 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 136,000 ล้านบาท) ห่างเพียง 2,200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,570 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าเติบโต *อย่างรวดเร็วเหนือความคาดหมาย* สำหรับกองทุนที่ยังไม่ถึงสองปี
ภายใต้กระแสที่นักลงทุนสถาบันเริ่มเปิดรับบิตคอยน์ในรูปแบบ *การลงทุนโดยตรงผ่านตลาดทุน* ได้มากขึ้น IBIT กลายเป็นตัวอย่างชัดเจนของ *ทิศทางใหม่ของตลาด ETF สินทรัพย์ดิจิทัล* ถึงแม้จะยังมีความไม่แน่นอนทางกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตอยู่ก็ตาม แต่ตลาดกำลังทยอยยอมรับบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ภายใต้ระบบการลงทุนแบบสถาบันมากขึ้นเรื่อย ๆ ความคิดเห็น: ความสำเร็จของ IBIT บ่งชี้ชัดว่า ตลาดทุนกระแสหลักกำลังเปลี่ยนมุมมองต่อบิตคอยน์จาก “สินทรัพย์เสี่ยง” ไปสู่ “สินทรัพย์ลงทุนระยะยาว” อย่างมีนัยสำคัญ.
ความคิดเห็น 0