รัฐบาลภูฏานได้ย้ายระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลที่เก็บข้อมูลประชาชนราว 800,000 คน จาก *โพลิกอน(MATIC)* ไปสู่ *อีเธอเรียม(ETH)* อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายในการเสริมสร้าง *ความปลอดภัยและความโปร่งใส* ของระบบให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ภูฏานก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในประเทศแนวหน้าในการใช้ *บล็อกเชน* สำหรับการบริหารงานภาครัฐ
ตามรายงานในพื้นที่ การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถยืนยันตัวตนผ่านบล็อกเชนอีเธอเรียมและเข้าถึงระบบบริการรัฐบาลได้โดยตรง โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2026 อายะ มิยางุจิ(Aya Miyaguchi) ผู้อำนวยการมูลนิธิอีเธอเรียม เปิดเผยผ่าน X ว่า “การย้ายระบบครั้งนี้เกิดขึ้นในวาระครบรอบ 10 ปีของอีเธอเรียม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้แนวคิดกลายเป็นสิ่งที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน”
ทั้งนี้ ระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลของภูฏานเริ่มต้นจากการใช้แพลตฟอร์ม *ไฮเปอร์เลดเจอร์ อินดี้* ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้โพลิกอนในเดือนสิงหาคม 2024 อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยด้าน *การปรับขยายของเทคโนโลยี* และ *ความน่าเชื่อถือของระบบนิเวศ* ทำให้รัฐบาลตัดสินใจใช้ *อีเธอเรียม* แทน พร้อมทั้งรับเอาเทคโนโลยี *ศูนย์ความรู้เป็นศูนย์(zk-proof)* มาใช้เพื่อเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวในการยืนยันตัวตน
การขับเคลื่อนครั้งนี้เกิดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานดิจิทัล ID และหน่วยงานเทคโนโลยีรัฐบาล โดยมีชุมชนคริปโตในพื้นที่และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน โครงการนี้ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการในงานที่มี *วิตาลิก บูเทอริน* ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม, *นายกรัฐมนตรีเชอริง ท็อปเกย์* และ *มกุฎราชกุมารจิกมี นัมเกล วังชุก* เข้าร่วม
ควบคู่กัน ภูฏานยังขับเคลื่อนโครงการ *ขุดบิตคอยน์(BTC)* อย่างจริงจัง โดยรัฐบาลได้สะสมบิตคอยน์ราว 6,371 BTC (คิดเป็นประมาณ 11,760 ล้านบาท) นับเป็นประเทศที่มีการถือครองบิตคอยน์ของรัฐมากเป็นอันดับหกของโลก รองจากสหรัฐฯ จีน สหราชอาณาจักร ยูเครน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ในปี 2025 ประเทศจะร่วมมือกับบริษัท *บิตเดียร์ เทคโนโลยี* เพื่อขยายฟาร์มขุดบิตคอยน์ขนาด 100 เมกะวัตต์ที่ใช้งานพลังน้ำ โดยมีแผนระดมทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 69,500 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนโครงการนี้ ซึ่งบริษัทลงทุนแห่งชาติ *ดรุ๊ก โฮลดิ้ง แอนด์ อินเวสต์เมนต์* ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน
*ความคิดเห็น*: กลยุทธ์บล็อกเชนของภูฏานสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล ไม่ใช่เพียงการใช้เทคโนโลยี แต่เป็นการสร้าง *อธิปไตยดิจิทัล* และ *โมเดลเศรษฐกิจยั่งยืน* ระยะยาว โดยการย้ายระบบยืนยันตัวตนไปสู่อีเธอเรียมนั้น อาจถือเป็นหนึ่งใน *หมุดหมายสำคัญของประเทศ* ในการยืนยันจุดยืนบนเวทีดิจิทัลระดับโลก
ความคิดเห็น 0