อีลอน มัสก์หนุนบิตคอยน์(BTC) ดันตลาดผันผวนหนัก ริปเปิล(XRP) โดนเทขาย 2.23 พันล้านโทเคน

ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวรุนแรงตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 14 (เวลาท้องถิ่น) โดย *บิตคอยน์(BTC)* กลับมาได้รับความสนใจอย่างมากหลัง *อีลอน มัสก์(Elon Musk)* แสดงความคิดเห็นว่า “*เงินเฟียตเป็นของปลอม*” พร้อมทั้งย้ำจุดยืนสนับสนุน *บิตคอยน์* ว่าไม่สามารถปลอมแปลงได้ คล้อยหลังไม่นาน การขายที่มีขนาดใหญ่ของวาฬ *ริปเปิล(XRP)* และความเคลื่อนไหวตอบโต้ทางภาษีจากจีน ก็ยิ่งซ้ำเติมบรรยากาศการลงทุนให้แย่ลงอย่างชัดเจน

อีลอน มัสก์กล่าวบนแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิม Twitter) ว่า “เงินที่รัฐบาลออกนั้นเป็นของปลอมทั้งนั้น ไม่มีรัฐบาลไหนไม่เคยทำ” พร้อมเสริมจุดยืนว่า “เหมือนกับพลังงานที่ไม่สามารถถูกปลอมแปลงได้ บิตคอยน์ก็เช่นกัน” โดยเขาย้ำว่า *จุดแข็งของบิตคอยน์คือการใช้พลังงานเป็นฐาน* ซึ่งทำให้มันเป็นระบบเงินที่สามารถต้านทานเงินเฟ้อได้ดีที่สุดในปัจจุบัน

คำพูดของมัสก์ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วตลาด BTC ซึ่งก่อนหน้านี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 117,000 ดอลลาร์สหรัฐ ได้อ่อนลงมาเคลื่อนไหวในกรอบ 111,000–112,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.43–15.56 ล้านบาท) ในระยะสั้น ตลาดต้องการให้ราคากลับมายืนเหนือต้านที่ระดับ 114,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.85 ล้านบาท) จึงจะมีโอกาสฟื้นตัวได้

ด้านตลาด *ริปเปิล(XRP)* พบการขายออกของวาฬครั้งใหญ่ที่สุดของปี โดยบริษัทวิเคราะห์ออนเชนข้อมูล *แซนทิเมนต์(Santiment)* รายงานว่า กระเป๋าเงินที่ถือ XRP ระหว่าง 100 ล้านถึง 1 พันล้านโทเคนได้ขาย XRP ออกมากถึง 2.23 พันล้านโทเคน ภายใน 7 วัน คิดเป็นมูลค่าราว 6 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 83,400 ล้านบาท) เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันราคาทำให้ XRP ร่วงลงจากระดับ 2.98 ดอลลาร์ เหลือ 2.38 ดอลลาร์ ก่อนจะเด้งกลับมาได้เล็กน้อยที่ระดับ 2.58 ดอลลาร์

อีกประเด็นที่สร้างความกังวลคือการที่จีนเดินหน้าตอบโต้ทางเศรษฐกิจโดยประกาศเพิ่ม *อัตราภาษีตอบโต้สินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ* ซึ่งเท่ากับเป็นการยกระดับสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ แม้ทางการจีนจะยังคงระบุว่าพร้อมเปิดเจรจา แต่การดำเนินการเชิงรูปธรรมในครั้งนี้ได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก

ภาพรวมส่งผลให้ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ปริมาณการ *ล้างโพซิชันในตลาดคริปโตทั้งหมดสูงถึง 624.3 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ 8,680 ล้านบาท) โดยส่วนใหญ่เป็นโพซิชันฝั่ง Long ที่คิดเป็นมูลค่า 432.9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,020 ล้านบาท) ขณะที่เฉพาะ BTC เองมีการล้างโพซิชันถึง 124.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,736 ล้านบาท) ด้าน *อีเธอเรียม(ETH)* ก็หลุดระดับ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 556,000 บาท) ลงมาต่อเนื่อง

*ความคิดเห็น*: ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดแนวโน้มตลาดในระยะถัดไปคือกำหนดการพิจารณา *ETF บิตคอยน์* ระหว่างวันที่ 18–24 ตุลาคม และการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาดอาจทำให้ตลาดปรับฐานต่อ และทำให้นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น

การผันผวนในครั้งนี้ไม่ได้เกิดเพียงจากปัจจัยระยะสั้น แต่ยังสะท้อนถึง *ความเสี่ยงจากนโยบายและกฎระเบียบ* อีกทั้งพฤติกรรมของนักลงทุนรายใหญ่ โดยเฉพาะคำพูดของมัสก์ที่ตอกย้ำว่าบิตคอยน์ซึ่งมีปริมาณจำกัดกำลังกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกท่ามกลางความไม่แน่นอนของระบบการเงินโลก

ตัวเลขการล้างโพซิชันที่สูงขึ้น การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของวาฬ และแรงกระเพื่อมจากสงครามเศรษฐกิจ ล้วนเป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อทิศทางของตลาดในช่วงต่อไป โดยเฉพาะสัปดาห์หน้าท่ามกลางเหตุการณ์ใหญ่ที่รออยู่ การฟื้นคืนความมั่นใจดูจะยังคงเป็นเรื่องยากในช่วงนี้