เดวิน ฟินเซอร์(Devin Finzer) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโอเพนซี(OpenSea) ออกมาโต้ข้อกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มกำลังละทิ้งการให้บริการด้าน NFT โดยระบุว่าโอเพนซีอยู่ระหว่าง ‘การเปลี่ยนแปลง’ และตั้งเป้าจะกลายเป็นอินเทอร์เฟซสากลสำหรับการซื้อขาย *สินทรัพย์ออนเชนทุกประเภท*
เมื่อวันที่ 27 (เวลาท้องถิ่น) ฟินเซอร์เปิดเผยข้อมูลผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า ภายในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.4 หมื่นล้านบาท) ผ่านระบบของโอเพนซี โดยมากกว่า *90% เป็นการซื้อขายโทเคน* ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญว่าแพลตฟอร์มไม่ได้จำกัดอยู่แค่ NFT แต่กำลังเติบโตสู่แพลตฟอร์มซื้อขาย *สินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์จริง* อย่างครอบคลุม
ในบทสัมภาษณ์กับ Cointelegraph ฟินเซอร์ย้ำว่า “เราตั้งเป้าสร้างอินเทอร์เฟซสำหรับเศรษฐกิจออนเชนในภาพรวม ไม่ว่าเป็นโทเคน, ของสะสม, คอนเทนต์วัฒนธรรม, สินทรัพย์ดิจิทัลหรือแม้แต่สินทรัพย์จริง หากอยู่บนบล็อกเชน จะต้องซื้อขายได้ในโอเพนซี” พร้อมระบุว่าแนวทางหลักในอนาคตจะมุ่งเน้น *ขยายการรองรับหลายเชน* และส่งเสริม *สิทธิการควบคุมสินทรัพย์ของผู้ใช้*
โอเพนซีเปิดตัวในปี 2017 และเคยครองสถานะผู้นำตลาด ในฐานะแพลตฟอร์มสำคัญที่ขับเคลื่อนกระแส NFT ในยุคแรก อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี 2023 ตลาด NFT เริ่มซบเซา และโอเพนซีต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากบล러(Blur) ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนการครอบครองตลาดลดลง จากสถานการณ์ดังกล่าว โอเพนซีจึงเลือก *ปรับทิศทางธุรกิจจาก ‘แพลตฟอร์ม NFT’ ไปสู่แพลตฟอร์มออนเชนแบบหลากหลาย*
‘ความคิดเห็น’ ของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมประเมินว่า กลยุทธ์ใหม่นี้สะท้อนความพยายามของโอเพนซีในการ *ปรับตัวรับกับการชะลอตัวในตลาด NFT* และเตรียมพร้อมสำหรับ *วัฏจักรถัดไปของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล* โดยหากสามารถครอบคลุมทั้งของสะสม, สินทรัพย์เชื่อมโยงกับโลกจริง และคอนเทนต์ดิจิทัลได้สำเร็จ โอเพนซีอาจกลับมายืนหนึ่งในฐานะแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ออนเชนระดับโลกอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0