ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid) กลายเป็นโครงการโดดเด่นที่สุดในตลาดการซื้อคืนโทเคนปี 2025 โดยจากข้อมูลของ CoinGecko ระบุว่า ไฮเปอร์ลิควิดได้ดำเนินการซื้อคืนโทเคน HYPE เป็นมูลค่าสูงถึง *644.64 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8,971 ล้านบาท)* คิดเป็น 46% ของมูลค่าการซื้อคืนทั้งหมดในปีนี้ ทำให้ขึ้นแท่นเป็นโครงการที่ใช้เงินซื้อคืนมากที่สุดเหนืออีก 9 โครงการชั้นนำรวมกัน
ผ่านกองทุนช่วยเหลือ (Assistance Fund) ไฮเปอร์ลิควิดได้ซื้อคืนโทเคน HYPE อย่างน้อย 21.36 ล้านเหรียญ คิดเป็นประมาณ 2.1% ของจำนวนโทเคนที่หมุนเวียน โดยเฉลี่ยในแต่ละเดือนมีมูลค่าซื้อคืนประมาณ *65.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 912 ล้านบาท)* โดยเดือนที่มีการใช้งบน้อยที่สุดคือเดือนมีนาคมที่ *39.14 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 544 ล้านบาท)* ส่วนเดือนที่ใช้งบสูงสุดคือสิงหาคมที่ทะยานถึง *110.62 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,537 ล้านบาท)* ค่าเฉลี่ยราคาซื้ออยู่ที่ 30.18 ดอลลาร์ต่อ HYPE (ประมาณ 41,449 บาท)
อันดับสองคือโปรเจกต์เลเยอร์ซีโร(LayerZero) ที่ในเดือนกันยายนซื้อคืนโทเคน ZRO มูลค่าสูงถึง *150 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,085 ล้านบาท)* แบบกิจกรรมพิเศษเพียงหนึ่งครั้ง คิดเป็น 5% ของจำนวนโทเคนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การดำเนินการแบบนี้ถือเป็นมาตรการชั่วคราว ไม่ต่อเนื่อง
ด้านแพลตฟอร์มมิ้มคอยน์ Pump.fun มียอดซื้อคืนสะสมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมมากถึง *138.17 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,925 ล้านบาท)* เฉลี่ยราว *40.47 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 563 ล้านบาท)* คิดเป็น 3% ของการหมุนเวียน แม้วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาแพลตฟอร์มจะขาดทุนจากการซื้อคืนเพราะตลาดปรับตัวลง แต่ก็ยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์ลดอุปทานระยะยาว *โดยไม่หวั่นไหวต่อสภาวะตลาด* ซึ่งถือว่าน่าสนใจ
อีกโครงการที่โดดเด่นคือ เรย์เดียม(Raydium) แพลตฟอร์ม DEX บนโซลานา(SOL) ที่ลงทุนซื้อคืนและเบิร์นโทเคนตั้งแต่ปี 2022 ถึงปัจจุบันรวมแล้ว *100.35 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,380 ล้านบาท)* เป็นแนวทางการจัดการอุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังมีโปรเจกต์อื่น ๆ อย่าง โรลบิต (Rollbit มูลค่า 27.93 ล้านดอลลาร์), บงค์(BONK มูลค่า 27.3 ล้านดอลลาร์), ซัน(Sun มูลค่า 3.03 ล้านดอลลาร์) และ วู(WOO มูลค่า 1.68 ล้านดอลลาร์) ที่มีบทบาทในรายการซื้อคืนเช่นกัน
ภาพรวมทั้งปี 2025 มีทั้งหมด 28 โครงการสำคัญที่ดำเนินการ *กิจกรรมซื้อคืนโทเคนอย่างมีนัยสำคัญ* CoinGecko วิเคราะห์ว่า ทิศทางนี้ไม่ได้จำกัดแค่การลดจำนวนโทเคนเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างมูลค่ากลับคืนให้ผู้ถือโทเคนและกระตุ้นการมีส่วนร่วมระยะยาว
นับตั้งแต่ต้นปี มูลค่ารวมทั้งหมดที่ใช้ไปในการซื้อคืนเกิน *1.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 19,460 ล้านบาท)* โดยมีไฮเปอร์ลิควิดเป็นผู้นำหลักเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ *146 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,030 ล้านบาท)* โดยเฉพาะหลังจากเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา มีการเร่งการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 85% ต่อเดือน
เดือนกันยายนมีการเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติเนื่องจากการซื้อคืนขนาดใหญ่จากเลเยอร์ซีโร แต่เมื่อหักตัวแปรพิเศษนี้ออกแล้ว ยอดรวมซื้อคืนในเดือนนั้นกลับมาอยู่ที่ *168.45 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,342 ล้านบาท)* ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ค่อนข้างมั่นคง อีกทั้งในช่วงกลางเดือนตุลาคมยอดซื้อคืนก็ทะลุ *89 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,237 ล้านบาท)* แล้ว ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของครึ่งหลังของปีทั้งหมด
‘ความคิดเห็น’ — เทรนด์นี้ชี้ให้เห็นว่า โปรเจกต์บล็อกเชนกำลังเพิ่มความสำคัญในการควบคุมเศรษฐกิจโทเคน บนพื้นฐานของการลดอุปทานเพื่อเสริมมูลค่าในระยะยาว มากกว่าการพยายามกระตุ้นราคาระยะสั้น ท่ามกลางปีที่ตลาดยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0