ราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงต่ำกว่าแนวต้านสำคัญที่ 108,000 ดอลลาร์ หรือราว 15.01 ล้านบาท ทำให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมพลิกกลับเข้าสู่ช่วงขาลงอย่างชัดเจน สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัลต์คอยน์ชื่อดังหลายรายการ รวมถึงเอสเตอร์(ASTER) ต่างก็เผชิญกับแรงขายอย่างหนัก บางเหรียญร่วงลงเป็นตัวเลขสองหลัก ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนเต็มไปด้วยความกังวล
เมื่อวันที่ 21 (ตามเวลาท้องถิ่น) บิตคอยน์เคยฟื้นขึ้นไปแตะระดับ 111,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.50 ล้านบาท) ต่อเหรียญในระหว่างวัน แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เจอกับแรงขายมหาศาล ดันราคาลงมายืนที่ 107,500 ดอลลาร์ (ราว 14.96 ล้านบาท) นับเป็นการลดลงประมาณ 3% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า และร่วงลงกว่า 13% ในช่วงสองสัปดาห์ ซึ่งภาวะนี้ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความยั่งยืนของตลาดขาขึ้น นักวิเคราะห์บนแพลตฟอร์ม X ชื่อ ‘Dr Profit’ เตือนว่า หากบิตคอยน์หลุดแนวรับ 101,700 ดอลลาร์ (ราว 14.17 ล้านบาท) อาจเป็นสัญญาณชัดเจนว่าตลาดเข้าสู่ *ช่วงขาลง* อย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยหนึ่งที่สะท้อนมุมมองในเชิงบวก นั่นคือจำนวนบิตคอยน์ที่ถูกเก็บไว้ในกระดานเทรดต่างๆ ยังคงลดลงต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายมองว่าเป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นระยะยาวของนักลงทุน ปัจจุบัน บิตคอยน์มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 2.14 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 2,974.6 ล้านล้านบาท) และมีส่วนแบ่งในตลาดคริปโตทั้งหมดที่ราว 58%
ในฝั่งอัลต์คอยน์ก็ไม่รอดพ้นจากภาวะซบเซานี้เช่นกัน โดยอีเธอเรียม(ETH) ลดลง 4.5% มาอยู่ที่ 3,860 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.36 ล้านบาท) ขณะที่ริปเปิล(XRP) หลุดระดับ 2.50 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,475 บาท) และโซลานา(SOL) ก็อ่อนตัวลงถึง 5% มาปิดที่ 184 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.56 ล้านบาท)
เหรียญที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในกลุ่มท็อป 100 ตามมูลค่าตลาดคือเอสเตอร์(ASTER) ซึ่งร่วงลงถึง 12% ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ขณะที่เมนเทิล(MNT) และไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid) ก็ตามมาติดๆ ด้วยการลดลง 10% และ 8% ตามลำดับ สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม มีบางเหรียญที่สามารถสวนทางตลาดและปรับขึ้นได้ เช่น เชนโอเปราเอไอ(COAI), โปรวิเคนซ์ บล็อกเชน(HASH) และซีแคช(ZEC) ที่แม้จะปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ก็ดึงดูดความสนใจในภาวะที่ตลาดส่วนใหญ่เป็นลบ
ขณะนี้ มูลค่ารวมของตลาดคริปโตอยู่ที่ราว 3.73 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,184 ล้านล้านบาท) ลดลงกว่า 3.2% ภายในวันเดียว แม้ว่าอาจจะเป็นเพียงการ ‘พักฐานชั่วคราว’ แต่ในช่วงเวลาแบบนี้ นักลงทุนควรจับตาจุดรับสำคัญของบิตคอยน์ รวมถึงพฤติกรรมในกระดานเทรดเพื่อวาง *กลยุทธ์ที่เหมาะสม* และลดความเสี่ยงในการเทรด
ความคิดเห็น 0