บิตคอยน์(BTC) ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 115,000 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรยากาศในตลาดเริ่มกลับมาสงบลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ดัชนีความกลัวและความโลภของบิตคอยน์(Bitcoin Fear & Greed Index) หยุดอยู่ในโซน 'กลัว' นานกว่า 2 สัปดาห์ ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ ดัชนีดังกล่าวพลิกกลับสู่ระดับ ‘เป็นกลาง’ สะท้อนให้เห็นถึง *การเปลี่ยนแปลงด้านจิตวิทยาการลงทุนที่กำลังเกิดขึ้นในตลาด*
จากข้อมูลล่าสุด ดัชนีความกลัวและความโลภอยู่ที่ 51 คะแนนจากเต็ม 100 ปรับขึ้นจาก 40 คะแนนเมื่อวันก่อนหน้า ถือว่าเพิ่มขึ้นถึง 11 จุดภายในวันเดียว และหากเทียบกับสัปดาห์ก่อน มีการกระโดดขึ้นกว่า 20 จุด การปรับตัวที่รวดเร็วในระยะสั้นนี้สะท้อนถึง *ความคาดหวังของนักลงทุนที่เริ่มหันกลับมาเชื่อมั่นในโอกาสการฟื้นตัวยาวของบิตคอยน์*
การฟื้นตัวของราคาบิตคอยน์ครั้งนี้มีแนวโน้มได้รับอิทธิพลจากท่าทีด้านกฎระเบียบของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่ส่งสัญญาณสนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน ทรัมป์กล่าวในการแถลงล่าสุดว่า “สหรัฐฯ ต้องกลับมาครองความเป็นผู้นำในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล” ซึ่งถือเป็น *สัญญาณบวกสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตทั้งหมด* ท่าทีทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงนี้ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน และเป็นแรงผลักดันสำคัญที่หนุนให้ความต้องการในบิตคอยน์เพิ่มขึ้น
ดัชนีความกลัวและความโลภจัดเป็นหนึ่งในเครื่องมือตรวจวัดอารมณ์ของตลาด โดยค่าใกล้ 0 หมายถึงความกลัวรุนแรง ขณะที่ระดับใกล้ 100 หมายถึงภาวะโลภ หากดัชนีขยับเข้าสู่โซน ‘เป็นกลาง’ มักจะตีความได้ว่า *ตลาดกำลังหลุดออกจากช่วงความไม่แน่นอนสูง*
นักวิเคราะห์ในตลาดเตือนว่า ถึงแม้จะเห็นสัญญาณฟื้นตัวในระยะสั้น แต่ในสภาวะที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้ *การวางกลยุทธ์อย่างระมัดระวังยังคงเป็นสิ่งจำเป็น* ที่สำคัญหลายครั้งในอดีต ดัชนีเคยไต่ขึ้นเหนือระดับ ‘เป็นกลาง’ ก่อนจะพลิกกลับลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวังว่า *ปัจจัยนโยบายระดับมหภาคและการเปลี่ยนแปลงของทิศทางดอกเบี้ย* จะยังคงเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางของตลาดคริปโตในระยะต่อไป
ความคิดเห็น 0