การอัปเกรดครั้งใหญ่ของอีเธอเรียม(ETH) ที่ชื่อว่า ‘ฟูซากะ(Fusaka)’ ได้ผ่านการทดสอบขั้นสุดท้ายบนเครือข่ายทดสอบ ‘ฮูดี(Hoodi)’ อย่างราบรื่น โดยกำหนดการอัปเกรดบนเครือข่ายหลักจะเกิดขึ้นในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ การอัปเกรดนี้คาดว่าจะยกระดับ ‘ความสามารถในการขยายเครือข่าย’ และ ‘ความปลอดภัย’ ซึ่งถือเป็นสองหัวใจสำคัญของการพัฒนาอีเธอเรียมในรอบนี้
เนเธอร์ไมนด์ บริษัทผู้พัฒนาอีเธอเรียม ได้ออกมาประกาศผ่าน X (เดิมคือทวิตเตอร์) เมื่อวันที่ 7 ว่า “การอัปเกรดฟูซาก้ากำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น” โดยยืนยันความสำเร็จในการปรับใช้ฮาร์ดฟอร์กบนเครือข่ายทดสอบครั้งสุดท้าย โดยเนเธอร์ไมนด์มีบทบาทสำคัญในการสร้างซอฟต์แวร์สำหรับนักยืนยันธุรกรรม (validator client) ซึ่งใช้งานกันอย่างแพร่หลายในเครือข่ายอีเธอเรียม
สำหรับการอัปเกรดฟูซาก้านี้ ได้รวมข้อเสนอการพัฒนาอีเธอเรียม (EIP) หลายรายการ โดยหนึ่งในข้อเสนอที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ EIP-7594 ที่นำเทคโนโลยี ‘Peer Data Availability Sampling (peerDAS)’ เข้ามาช่วยให้ไลท์ไคลเอนต์สามารถประมวลผลข้อมูลในบล็อกเชนเลเยอร์ 2 ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลทั้งหมด ช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพในการดำเนินงานของโหนด และการขยายระบบเครือข่ายในภาพรวม
ขณะเดียวกัน EIP-7825 และ EIP-7935 ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการ ‘ประมวลผลงานพร้อมกัน (parallel execution)’ และการเพิ่ม ‘ขีดจำกัดก๊าซ (gas limit)’ ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถในการจัดการธุรกรรมจำนวนมากในเวลาเดียวกัน รวมถึงยังมีข้อเสนอเพื่อยกระดับประสิทธิภาพของโซลูชันโรลอัปแบบซีโร่ นอลเลจ(Zero-Knowledge Rollup) ที่กำลังได้รับความนิยมสูง
การอัปเกรดครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญต่อจากการอัปเกรด ‘เชเปลลา(Shapella)’ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอีเธอเรียมในการแก้โจทย์ใหญ่ ทั้งด้าน ‘การขยายเครือข่าย’, ‘ประสิทธิภาพการประมวลผล’ และ ‘ความปลอดภัย’ ความสำเร็จของฟูซาก้าจะเปิดทางให้กับการใช้งานจริงของโซลูชันเลเยอร์ 2 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอีกด้วย
ความคิดเห็น 0