ทาร์อิมมูน(Tharimmune) บริษัทไบโอเทคในสหรัฐ เผยว่าได้ระดมทุนเอกชนมูลค่าประมาณ 540,000 ล้านวอน หรือราว 395 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเดินหน้า *กลยุทธ์คริปโต* โดยเฉพาะการลงทุนใน *แค็นตันคอยน์(CC)* และจัดการ *การเงินสินทรัพย์ดิจิทัล* ภายในบริษัท
เมื่อวันที่ 24 การเข้าระดมทุนในรอบนี้นำโดย DRW บริษัทเทรดดิ้งสัญชาติสหรัฐ และ Liberty City Ventures พร้อมด้วยบริษัทลงทุนชื่อดังอย่าง Ark Invest, Polychain Capital และ Kraken ที่ร่วมวงเดิมพันในดีลนี้ ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของทาร์อิมมูนหลังการระดมทุนอยู่ที่ 3.075 ดอลลาร์ต่อหุ้น หรือประมาณ 3,075 วอน ทั้งนี้ แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมประเมินว่านี่คือหนึ่งใน *ดีลการระดมทุนเอกชนด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดช่วงที่ผ่านมา*
ทาร์อิมมูนวางแผนนำเงินลงทุนไปขยายอิทธิพลใน *เครือข่ายแค็นตัน* ด้วยบทบาท *Super Validator* และการเปิดโหนดเพิ่มเติมในเครือข่าย ซึ่งนอกจากจะสร้างผลตอบแทนให้บริษัท ยังเสริมความเสถียรของระบบโดยรวมอีกด้วย
บริษัทระบุว่าตั้งเป้าหมายรวมบทบาททั้งสองด้าน – การพัฒนายารักษาโรคภูมิคุ้มกันและโรคอักเสบ พร้อมไปกับการเข้าเป็นผู้เล่นหลักในระบบนิเวศคริปโต จุดกระแส *การหลอมรวมกันระหว่างไบโอเทคกับเทคโนโลยีบล็อกเชน* ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่
ราคาหุ้นของทาร์อิมมูนในตลาดแนสแดคขยับขึ้นสูงถึง 14% ในระหว่างการซื้อขาย และปิดที่บวก 8.4% สะท้อนความเชื่อมั่นของตลาดต่อกลยุทธ์คริปโตครั้งนี้
แค็นตันเน็ตเวิร์กเป็น *บล็อกเชนแบบ permissioned* ที่ออกแบบมาสำหรับสถาบันการเงิน ซึ่งรองรับการสื่อสารระหว่างแอปพลิเคชันทางการเงินและการจัดการสินทรัพย์ที่ผ่านการโทเคนิซ์ โดยมี *โกลด์แมน แซคส์, เอชเอสบีซี, บีเอ็นพี พาริบาส, แพกซอส, ดอยช์แบงก์* และ *ตลาดหลักทรัพย์ Cboe* เป็นผู้สนับสนุนหลัก
*ความคิดเห็น:* กลยุทธ์ของทาร์อิมมูนแสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการในโลกจริงเริ่มเปิดรับคริปโตไม่ใช่แค่เพื่อการเก็งกำไร แต่ในฐานะ "สินทรัพย์ทางการเงิน" ที่สามารถส่งผลเชิงกลยุทธ์ต่ออนาคตของธุรกิจโดยตรง
                    
                                            
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                        
                                                        
                                                        
                                                        
                                                        
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
ความคิดเห็น 0