สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงเพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลกลาง ส่งผลให้ความต้องการของนักลงทุนสถาบันในสินทรัพย์ดิจิทัลพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อวันที่ 23 (เวลาท้องถิ่น) วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านการลงมติขั้นต้นเพื่อสิ้นสุดภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลกลางที่ยืดเยื้อมานานกว่า 40 วัน โดยมีกำหนดการลงมติในที่ประชุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 24 หากได้รับความเห็นชอบ รัฐบาลกลางจะกลับมาทำงานได้ตามปกติ สถานการณ์นี้ได้ส่งผลให้ตลาดคริปโตกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap โทเคนสตาร์คเน็ต(STRK) พุ่งขึ้น 43% ภายในวันเดียว แซงหน้าทุกสินทรัพย์ในตลาด ส่วนโทเคนเวิลด์ลิเบอร์ตีไฟแนนเชียล(WLFI) ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีทรัมป์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 28% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ผู้เข้าร่วมตลาดต่างมองว่าการยุติภาวะชัตดาวน์จะช่วยขจัดความไม่แน่นอนในระดับมหภาค และเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวในตลาดคริปโต นิโคไล ซอนเดอร์การ์ด นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชน “แนนเซน” กล่าวว่า “ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดอยู่ในสภาพไร้ข้อมูลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจ นโยบาย หรือความเคลื่อนไหวด้านกฎระเบียบ นักลงทุนจึงต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของการคาดเดา”
เขาเสริมว่า “หากรัฐบาลกลับมาทำงานตามปกติ ข้อมูลจากหน่วยงานกลางจะทำให้ตลาดมีข้อมูลที่แท้จริงมาวิเคราะห์พื้นฐานของสินทรัพย์ได้ดีขึ้น”
ภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยเสี่ยงใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโลก รวมถึงตลาดคริปโต โดยที่ผ่านมา นักลงทุนเผชิญความวิตกต่อภาวะสภาพคล่องตึงตัวและบรรยากาศการลงทุนที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม หากข้อตกลงยุติชัตดาวน์บรรลุผลจริง ก็มี ‘ความคาดหวัง’ ว่าจะช่วยคลี่คลายความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบและดึงดูดการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันเพิ่มเติมในอนาคต
ความคิดเห็น 0