ความกังวลของตลาดเกี่ยวกับ ‘คอมพิวเตอร์ควอนตัม’ ที่อาจเจาะระบบความปลอดภัยของบิตคอยน์(BTC)ได้นั้น ล่าสุด อดัม แบ็ก หนึ่งในบุคคลสำคัญยุคไซเฟอร์พังก์และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ใกล้ชิดกับผู้ก่อตั้งบิตคอยน์ ซาโตชิ นากาโมโต ได้ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจน โดยเขายืนยันว่า ‘ภัยคุกคามจากควอนตัมยังไกลเกินจริง’ และควรหยุดกระแสข่าวที่กำลังบิดเบือนความเป็นจริงในตลาด
ในระยะหลัง ความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของคอมพิวเตอร์ควอนตัมในการถอดรหัสลายเซ็นดิจิทัลของบิตคอยน์กลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางการปรับฐานของราคาบิตคอยน์ ทำให้แบ็กออกมาชี้แจงผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) ของเขา เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า *"บิตคอยน์จะไม่เผชิญภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมในเวลาอันใกล้ และอย่างเร็วที่สุดก็อีกกว่า 20 ปี"*
แบ็ก ผู้เคยได้รับการกล่าวถึงในสารคดี HBO ว่าใกล้ชิดกับซาโตชิ นากาโมโต ยังเสริมว่าความกลัวที่ว่านี้ *“ไม่ได้มีรากฐานจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจริง แต่มาจากการคาดการณ์แบบสุดโต่งซึ่งไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการทำงานของเครือข่ายบิตคอยน์ในตอนนี้”* โดยในมุมมองแบบอนุรักษ์นิยมของเขาเองยังเชื่อว่า *“ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 20-40 ปีกว่าเราจะเผชิญความเสี่ยงที่แท้จริงจากเทคโนโลยีควอนตัมที่ใช้งานได้จริง”*
อีกทั้ง เขายังระบุว่าเครือข่ายบิตคอยน์มีเวลาเพียงพอในการพัฒนาเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยกล่าวว่า *“ก่อนที่วันที่เป็นกังวลจะมาถึง บิตคอยน์จะได้รับการอัปเกรดทั้งระบบ รวมถึงการนำเอาอัลกอริธึมที่ทนต่อควอนตัม เช่น การลงชื่อแบบใหม่ มาใช้”* ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจต่อขีดความสามารถของชุมชนในการรับมือกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป
แบ็กยังอาจพาดพิงถึงความพยายามในการ ‘ปั่นตลาด’ โดยกล่าวว่า ความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นอาจเป็นเทคนิคของกลุ่มที่ต้องการกดราคาบิตคอยน์ลง เพื่อ *“เปิดทางในการเก็บสะสมสินทรัพย์ในราคาถูก”* ซึ่งแฝงไปด้วยเจตนาควบคุมทิศทางของตลาด
ในช่วงท้ายของแถลงการณ์ แบ็กสรุปว่า *“บิตคอยน์ไม่ได้ยืนอยู่หน้าระเบิดเวลาหรือหายนะใดๆ เรามีทั้งเวลา เครื่องมือ และแผนทางเทคนิคที่แน่นอน”* พร้อมย้ำว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมยังไม่ใช่ ‘ศัตรู’ ของบิตคอยน์ในตอนนี้ แต่เป็นเรื่องเล่าที่ตลาดกำลังสร้างขึ้นเพื่อลดแรงขายจากความกลัว
*ความคิดเห็น:* บทวิเคราะห์ของอดัม แบ็กครั้งนี้ช่วยตรึงสติของตลาดชั่วคราว และเน้นย้ำว่าระบบของบิตคอยน์ยังมีเสถียรภาพ ไม่ได้เปราะบางต่อวิทยาการที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในระดับที่กระทบการใช้งานอย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0