บิตคอยน์(BTC) ร่วงแตะ 94,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลแรงขายกว่า 1 พันล้านดอลลาร์

ราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงมาแตะระดับ 94,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.27 ล้านบาท) อีกครั้ง สะท้อนถึงแรงกดดันขาลงในช่วงสั้นของตลาดที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีบิตคอยน์ราว 10,000 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.35 หมื่นล้านบาท) ถูกโอนเข้าไปยังแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน ซึ่งสร้างความกังวลว่าอาจเป็นสัญญาณของแรงขายขนาดใหญ่ที่กำลังตามมา

ก่อนหน้านี้ในช่วงสุดสัปดาห์ ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างนิ่ง แต่เริ่มร่วงอย่างรุนแรงตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ โดยจากที่ราคาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 97,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้า กลับลดฮวบลงภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงจนแตะที่ 94,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ถือเป็นการทดสอบแนวรับเดิมเป็นครั้งที่สองนับจากวันศุกร์ที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์กราฟเทคนิคชื่อ ‘อาลี’ (@ali_charts) ได้กล่าวผ่านแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์เดิม) ว่า “ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา บิตคอยน์มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ถูกส่งเข้าสู่กระดานแลกเปลี่ยน ซึ่งโดยปกติแล้วการเคลื่อนไหวแบบนี้มักเกิดขึ้นก่อนการขายขนาดใหญ่” เขาจึงเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวัง ความเห็นของเขาตรงกันกับพฤติกรรมของนักลงทุนสายยาว (long-term holders) ที่มักจะโอนสินทรัพย์เข้าสู่แพลตฟอร์มเมื่อต้องการเตรียมขายในช่วงสั้น

เมื่อมองย้อนกลับไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ บิตคอยน์เคยพุ่งทะลุระดับ 107,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.45 ล้านบาท) เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กลับร่วงลงมาราว 13,000 ดอลลาร์ในช่วงเวลาอันสั้น แสดงถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ดัชนี ‘ความกลัวและความโลภ’ ซึ่งสะท้อนจิตวิทยาการลงทุนในตลาดคริปโต ก็ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนที่กำลังก่อตัวเป็นวงกว้าง

แม้จะมีสัญญาณบวกจากข่าวสารภายนอก โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เวสเซนต์ (Scott Vessent) ให้สัมภาษณ์กับ Fox News ว่าสหรัฐฯ และจีนอาจบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนวันขอบคุณพระเจ้าในวันที่ 27 พฤศจิกายน โดยยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามั่นใจว่าจีนจะรักษาคำมั่นสัญญา” อย่างไรก็ตาม คำแถลงดังกล่าวก็ยังไม่สามารถสกัดการร่วงลงของราคาบิตคอยน์ในวันเดียวกันได้

ในภาพรวม นักวิเคราะห์ยังคงแบ่งแยกความเห็นว่า การปรับฐานในครั้งนี้เป็นเพียงระยะสั้น หรือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงที่ใหญ่กว่า แต่จากข้อมูลการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์เข้าสู่กระดานซื้อขาย และแนวโน้มตัวชี้วัดทางจิตวิทยา นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า ‘ความเป็นไปได้ที่ตลาดจะย่อลงต่อในช่วงสั้นยังคงมีอยู่’ ความเห็นทางฝั่งตลาดจึงยังคงระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด