อาเลีย รีเสิร์ช(Alea Research) ได้เปิดเผยรายงานล่าสุดที่แสดงความกังวลต่อโครงสร้างการแลกคืน(Rebuy Mechanism)และโมเดลโทเคนของ *แพลตฟอร์มพัมพ์ดอทฟัน(Pump.fun)* ว่าอิงอยู่บนวงจรการเอารัดเอาเปรียบผู้ใช้งาน และอาจเสี่ยงต่อการล่มสลายหากไม่มีความยั่งยืนในการซื้อขายและการรักษาผู้ใช้งานในระยะยาว แม้ราคาของโทเคน *พัมพ์(PUMP)* จะพุ่งขึ้นเป็นเลขสามหลักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา *คำสำคัญ: พัมพ์ดอทฟัน(Pump.fun), พัมพ์(PUMP)*
ตามรายงาน แพลตฟอร์มดังกล่าวมีระบบการซื้อขายที่เน้นเปลี่ยนเวลาการดูของผู้ใช้ให้เป็นกำไร แต่กลับส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากขาดทุนและถอนตัวออกจากตลาดอย่างรวดเร็ว กลไกนี้ทำให้มูลค่ารวมตลอดอายุผู้ใช้ (User Lifetime Value) ลดลง ขณะที่ต้นทุนในการดึงดูดลูกค้ากลับพุ่งสูงขึ้น อาเลีย รีเสิร์ชให้คำแนะนำว่า นักลงทุนควร “เช่าการซื้อขาย แต่อย่าผูกพันกับเรื่องราว” หมายถึงควรเน้นกำไรระยะสั้นมากกว่าการมีอารมณ์ร่วม
ในขณะนี้ ระบบการซื้อคืนของ *พัมพ์ดอทฟัน(Pump.fun)* ใช้รายได้ทั้งหมดเพื่อซื้อคืนโทเคนประมาณ 0.1% ของปริมาณรวมต่อวัน แต่หากราคายังคงพุ่งสูงขึ้นต่อไป จะต้องใช้เงินทุนเพิ่มขึ้นอีกมาก ทำให้เกิดข้อจำกัดในการขยายกิจการ รายงานระบุว่า หากต้องการคงมูลค่าตลาดแบบ Fully Diluted ที่ประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์ จำเป็นต้องใส่เงินลงทุนเป็นหลักหลายล้านดอลลาร์ในแต่ละวัน ทว่า รายได้ต่อวันอยู่เพียงประมาณ 3 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งหมายความว่ากลไกการแลกคืนซ้ำจะไม่สามารถดำเนินต่อได้ และนำไปสู่ความไม่มั่นคงของราคา
รายงานยังเตือนอีกว่า กลไกการซื้อคืนที่ไม่มีการบังคับใช้ผ่านระบบออนเชน อาจหยุดลงได้ทุกเมื่อด้วยดุลยพินิจของผู้ดูแล ซึ่งบ่งชี้ว่า ราคาที่ดูเหมือนมีการสนับสนุน อาจไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานที่มั่นคง นอกจากนี้ แม้จะมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น แต่จำนวนผู้ซื้อขายเฉพาะรายกลับไม่ขยายตัว และนี่อาจเป็นเครื่องยืนยันถึงโครงสร้างที่ใช้ผู้ใช้เดิมเป็นฐานในการผลักกำไรซ้ำไปมาโดยไม่สามารถดึงนักลงทุนกลุ่มใหม่นอกระบบเข้ามาได้
*ความคิดเห็น*: การถอนตัวของผู้ที่เข้ามาก่อน อาจบ่งชี้ถึงการหมดรอบของกำไรและสัญญาณว่าราคาจะหันกลับลงเร็วขึ้น
แม้กลยุทธ์ส่งสัญญาณซื้อจากการซื้อคืนจะช่วยกระตุ้นความต้องการ แต่การไหลเข้าของเงินใหม่ลดลงและประสิทธิภาพการสร้างกำไรต่ำลง จึงทำให้โครงสร้างแบบหมุนเวียนซ้ำของระบบเริ่มอ่อนตัวลง รายงานของอาเลีย รีเสิร์ชชี้ว่าระบบของพัมพ์นั้นไม่ต่างจากเกมเศรษฐกิจแบบไม่สมดุล (Asymmetric Game) ที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยมุ่งเป้าหมายไปยังการสร้างความน่าตื่นเต้นระยะสั้นมากกว่าความยั่งยืน
รายงานเสนอว่า แทนที่จะเน้นเพียงปริมาณการซื้อขาย แพลตฟอร์มควรออกแบบเพื่อรักษาผู้ใช้งานในระยะยาวและสร้างมูลค่าชีวิตที่ยืนนาน เพราะแม้เพียงแค่การแสดงความตั้งใจจะใช้รายได้เพื่อขยายธุรกิจมากกว่าการแลกคืน ก็อาจเพียงพอที่จะทำให้แรงจูงใจของนักลงทุนลดลง สุดท้าย รายงานสรุปว่า โมเดลโทเคนของ *พัมพ์(PUMP)* ยังคงมีจุดเปราะบางในโครงสร้าง และอาจเผชิญแรงต้านต่อความยั่งยืนในระยะยาว
ความคิดเห็น 0