ไมค์ อัลเฟรด(Mike Alfred) นักลงทุนคริปโตชื่อดัง แสดงความเห็นว่า *รัฐบาลสหรัฐ* อาจเริ่มจัดซื้อ *บิตคอยน์(BTC)* เป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ เมื่อประเทศอื่น ๆ เริ่มขยับตัวก่อน โดยชี้ว่าแรงกดดันจากภายนอกเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐลงมือในที่สุด
ในการพูดคุยผ่านพอดแคสต์เมื่อเร็ว ๆ นี้ อัลเฟรดกล่าวว่า การที่ *บิตคอยน์* จะเข้าสู่ *คลังสำรองของรัฐบาลสหรัฐ* ซึ่งก่อตั้งเมื่อต้นปีนี้ อาจเกิดขึ้นได้หากประเทศอื่นเริ่มแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน โดยเขาอ้างว่า “เมื่อแรงกดดันภายนอกเพียงพอ ถึงตอนนั้นรัฐบาลสหรัฐอาจตอบสนอง” พร้อมย้ำว่าตอนนี้ยังไม่มีประเทศใดที่เข้าซื้อบิตคอยน์ในเชิงทางการ แต่มีกระแสจากประเทศอย่างเอลซัลวาดอร์ที่เริ่มนำบิตคอยน์มาใช้เป็น *เงินตราถูกกฎหมาย* และถือครองไว้ในคลังของประเทศ
อัลเฟรดเพิ่มเติมว่า หากรัฐบาลสหรัฐตระหนักถึงบทบาทนำของชาติอื่น ๆ ก็อาจจุดประกายให้เกิด *มาตรการภาครัฐเพิ่มเติม* ในด้านคริปโต อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่า *เวลาในการดำเนินการจริงของสหรัฐยังมีความไม่แน่นอนสูง* และรัฐบาลอาจยังคงใช้ท่าทีระมัดระวัง
ในขณะที่บิตคอยน์ถูกพูดถึงในฐานะ *สินทรัพย์สำรองระดับโลก* ถ้ารัฐบาลสหรัฐตัดสินใจยอมรับและเริ่มเข้าซื้ออย่างเป็นทางการ ผลกระทบต่อ *ตลาดคริปโต* อาจรุนแรงและเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดีด้วยสถานะของสหรัฐในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบด้านทั้งด้านการเงินและการทูต
*ความคิดเห็น*: แม้แนวคิดเรื่องการสะสมบิตคอยน์ในนามของรัฐบาลสหรัฐยังเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน แต่มันสะท้อนให้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนว่า *หากประเทศชั้นนำปรับโครงสร้างสินทรัพย์ของตนให้รวมคริปโตโดยเฉพาะบิตคอยน์* ก็อาจเป็นชนวนสำคัญที่จุดประกาย Bull Market ครั้งใหม่ นอกจากนี้ยังอาจเร่งให้เกิดการตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่ *บิตคอยน์จะมีบทบาทเป็นระบบการเงินทางเลือกที่เสริม หรือแม้กระทั่งแทนที่ระบบที่อิงกับดอลลาร์ในอนาคต*
ความคิดเห็น 0