บริการของคลาวด์แฟลร์(Cloudflare) ผู้ให้บริการส่งต่อข้อมูลระหว่างประเทศเกิดปัญหาขัดข้องชั่วคราวเมื่อวันที่ 18 (เวลาท้องถิ่น) ส่งผลให้เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตหลายแห่งล่มลงพร้อมกัน แต่ *ระบบบล็อกเชนยังคงทำงานได้ตามปกติ* ท่ามกลางความสับสนระดับโลกเหตุการณ์นี้กลับเน้นย้ำ ‘คุณค่าที่แท้จริงของบล็อกเชน’ ตามความเห็นของ ฉางเผิง จ้าว(CZ) ผู้ก่อตั้งไบแนนซ์
คลาวด์แฟลร์เป็นบริษัท IT จากสหรัฐอเมริกาที่ให้บริการเครือข่าย CDN ป้องกันการโจมตีแบบ DDoS และระบบความปลอดภัยเข้าถึงทรัพยากรภายใน หนึ่งในบริการที่สำคัญของอินเทอร์เน็ตทั่วโลก แต่เมื่อเกิดความล่าช้าในการซ่อมแซมระบบ ทำให้เว็บไซต์ของแพลตฟอร์มใหญ่อย่างไบแนนซ์และตัวสำรวจบล็อกเชนหลายแห่งถูกตัดขาดจากผู้ใช้งานทั่วโลก
แทนที่จะอธิบายเทคโนโลยีอย่างซับซ้อน ฉางเผิง จ้าวโพสต์ข้อความเพียงสั้น ๆ ผ่านโซเชียลแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) ว่า *“บล็อกเชนยังคงทำงานอยู่”* ซึ่งสะท้อนจุดแข็งสำคัญของบล็อกเชนในฐานะเทคโนโลยีแบบไร้ศูนย์กลาง แม้หน้าเว็บไซต์จะเข้าใช้งานไม่ได้หรือระบบอินเทอร์เน็ตจะมีปัญหา แต่ข้อมูลและธุรกรรมในเครือข่ายยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่สะดุด
ในตัวอย่างที่ระบุว่า *ตัวสำรวจบล็อกของไบแนนซ์สมาร์ตเชนไม่สามารถใช้งานได้* จ้าวชี้ให้เห็นว่า บริการจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและผู้จำหน่ายคลาวด์มักเป็นจุดล้มเหลวเดียวของโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ โดยเฉพาะโปรโตคอลกระจายศูนย์อย่างบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ซึ่งออกแบบให้สามารถสื่อสารข้อมูลได้แม้ในสภาวะไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านการใช้สัญญาณไร้สาย
เหตุการณ์นี้นำไปสู่การทบทวนว่า อุตสาหกรรมคริปโตพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานแบบรวมศูนย์อย่างคลาวด์แฟลร์, ไมโครซอฟท์ แอซัวร์ และอเมซอนเว็บเซอร์วิสจนเกินไปหรือไม่ เนื่องจากการพึ่งพาบริษัทเหล่านี้มากเกินไปอาจทำให้ระบบเปราะบางต่อเหตุการณ์เช่นนี้
ข้อความสั้นของจ้าวว่า *“บล็อกเชนยังคงทำงานได้”* กลายเป็นประโยคที่สื่อถึงสารสำคัญของเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ดีที่สุด เป็นการย้ำเตือนถึงบทบาทของบล็อกเชนในฐานะกลไกที่สามารถทำงานได้แม้โครงสร้างศูนย์กลางจะล้มเหลว ความสามารถในการเป็นทางเลือกที่ไร้ ‘จุดล้มเหลวเดียว’ คือคุณสมบัติที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นของบล็อกเชนในโลกดิจิทัลยุคปัจจุบัน
ความคิดเห็น 0