อีเธอเรียม(ETH) ร่วงลงถึง 20% ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา โดยแตะระดับ $2,255 ก่อนจะฟื้นตัวและทรงตัวที่ราว $2,300 การปรับฐานดังกล่าวสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาด แต่ข้อมูลจากตลาดฟิวเจอร์สและออปชันของ ETH บ่งชี้ถึงโอกาสที่ราคาจะฟื้นตัว โดยเฉพาะค่าพรีเมียมฟิวเจอร์ส 30 วันของ ETH ที่เพิ่มขึ้นถึง 7% แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันขาลงเริ่มลดลงที่ระดับต่ำกว่า $2,600
ปัจจัยมหภาคยังคงเป็นอุปสรรคสำหรับการฟื้นตัวของ ETH ยอดการขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่ยอดขายบ้านรอปิดการขายในเดือนมกราคมลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน แคนาดา และเม็กซิโก พร้อมเตือนว่าสหภาพยุโรปอาจเผชิญภาษีนำเข้าถึง 25% ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนในตลาด นักลงทุนจึงมีท่าทีระมัดระวังต่อ ETH
กระนั้น ตลาดออปชันของ ETH ชี้ให้เห็นว่าแรงขายยังอยู่ในกรอบจำกัด ค่าเดลตาสกิวของออปชัน 60 วันอยู่ที่ -2% ซึ่งอยู่ในช่วงกลาง บ่งชี้ว่าสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่อาจยังไม่ต้องการทิ้งสินทรัพย์ในปริมาณมาก นอกจากนี้ ประวัติศาสตร์ราคา ETH เคยแสดงให้เห็นว่าหลังจากการร่วงหนัก มักมีการฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางกระแสตลาดที่ยังลุ้นว่าราคาจะกลับสู่ระดับ $2,800 ได้หรือไม่
การเคลื่อนไหวของอีเธอเรียมจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มของคู่แข่งอย่างโซลานา(SOL) และความก้าวหน้าทางเทคนิคของเครือข่าย ขณะนี้โซลานากำลังเผชิญกระแสบูมของมิ้มคอยน์ที่เริ่มชะลอตัว ขณะที่อีเธอเรียมยังคงมีความแข็งแกร่งใน Total Value Locked (TVL) และความต้องการในด้านสเตกกิงแบบมีสภาพคล่อง, สินเชื่อ และโปรโตคอลสภาพคล่องบนเชน ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่า การอัปเกรดเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาโซลูชันเลเยอร์ 2 จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการฟื้นตัวของราคาต่อไป
ความคิดเห็น 0