‘เกีย’ และ ‘ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์’ ร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยี IoT ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งาน
เมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมา (เวลาท้องถิ่น) ในงาน ‘Kia EV Day’ ทั้งสองบริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ โดยรถยนต์ ‘Purpose Built Vehicle (PBV)’ ของเกียจะสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม IoT อัจฉริยะของซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ ‘SmartThings Pro’ เพื่อเสริมศักยภาพการเชื่อมต่อระหว่างยานพาหนะกับพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
โครงการนี้จะเริ่มต้นที่รถรุ่น ‘PV5’ โดยจะเข้าสู่ช่วงทดสอบแนวคิด (Proof-of-Concept: PoC) ก่อนเตรียมเปิดตัวในเชิงพาณิชย์ช่วงกลางปี 2026 ภายใต้การทดลอง PoC ผู้ใช้จะสามารถควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะของซัมซุงได้จากระบบอินโฟเทนเมนท์ของรถ (IVI) หรือแท็บเล็ต ตัวอย่างฟีเจอร์เช่น การเปิดระบบปรับอากาศหรือป้ายโฆษณาดิจิทัลในร้านค้าก่อนเดินทางไปถึง (‘Work Mode’) หรือปิดอุปกรณ์ทั้งหมดพร้อมเปิดระบบรักษาความปลอดภัยหลังสิ้นสุดการทำงาน (‘Closing Mode’)
นอกจากนี้ เทคโนโลยี IoT ยังสามารถนำไปใช้กับธุรกิจที่ไม่ต้องมีพนักงานประจำ เช่น โรงแรมแบบบริการตนเอง ร้านซักอบรีด หรือคาเฟ่ ที่สามารถให้ผู้ใช้จองบริการและควบคุมระบบต่าง ๆ ผ่านรถยนต์ได้โดยตรง พัค ชานอู รองประธานศูนย์โซลูชันองค์กร B2B ของซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า “SmartThings Pro จะช่วยให้ลูกค้าธุรกิจสามารถบริหารจัดการยานพาหนะและพื้นที่ค้าปลีกได้จากศูนย์กลาง พร้อมทั้งขยายขีดความสามารถของโซลูชัน AI ร่วมกับความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์ของเกีย”
ขณะเดียวกัน บล็อกเชนก็กำลังมีบทบาทมากขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ ตัวอย่างเช่น กรมการขนส่งแห่งแคลิฟอร์เนีย (DMV) ได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาจัดการข้อมูลทะเบียนรถยนต์ ขณะที่ ‘บีเอ็มดับเบิลยู (BMW)’ และ ‘เจนเนอรัลมอเตอร์ส (GM)’ กำลังใช้บล็อกเชนเพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับข้อมูลของรถยนต์ไร้คนขับ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าตลาดบล็อกเชนสำหรับยานยนต์จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 25% ในอีก 8 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ‘T-Systems’ บริษัทในเครือของ ‘ดอยช์เทเลคอม’ ได้เริ่มต้นโครงการ ‘Digital Twin’ ที่ใช้ ‘เมตาเวิร์ส’ และเทคโนโลยี ‘Omniverse’ ของเอ็นวิเดีย(Nvidia) เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมในโลกดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้ภาคการผลิตและอุตสาหกรรมยานยนต์สามารถลดปัญหาคอขวดในซัพพลายเชน และเพิ่มประสิทธิภาพด้านกฎระเบียบ
ตัวแทนของ T-Systems กล่าวเพิ่มเติมว่า “ระบบดิจิทัลจะช่วยให้ผู้ผลิตลดต้นทุนด้านการวางแผนและการดำเนินงาน รวมถึงปรับปรุงกระบวนการทำงานร่วมกัน” เทคโนโลยี IoT, บล็อกเชน และเมตาเวิร์ส กำลังรวมตัวกันเพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างรวดเร็ว 🚗💡
ความคิดเห็น 0