Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

นักลงทุนชื่อดังเตือน มูลค่าเครือข่ายบล็อกเชนอาจสูงเกินจริง สวนทางเอฟเฟกต์เครือข่ายจริง

นักลงทุนชื่อดังเตือน มูลค่าเครือข่ายบล็อกเชนอาจสูงเกินจริง สวนทางเอฟเฟกต์เครือข่ายจริง / Tokenpost

ซานติอาโก โรเอล ซานโตส นักลงทุนคริปโตชื่อดัง ได้แสดงความเห็นว่าตลาดคริปโตกำลังประเมินมูลค่าสินทรัพย์ ‘สูงเกินไป’ โดยผิดจากความเป็นจริง โดยเฉพาะในด้าน *เครือข่ายเคริปโต* ที่แม้ไม่ได้มี ‘เอฟเฟกต์เครือข่าย’ จริงจัง แต่กลับได้รับการตีราคาสูงเพราะเข้าใจว่าเป็นไปตาม ‘กฎของเมตคาล์ฟ’ ซึ่งจริง ๆ แล้วสะท้อนถึงภาวะฟองสบู่มากกว่า

จากบทความในบล็อก Substack ของเขา ซานโตสอธิบายว่า เครือข่ายอย่างเฟซบุ๊กสามารถรองรับผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีก 10 ล้านคน โดยไม่กระทบต่อคุณภาพของการใช้งาน แต่ในฝั่ง *บล็อกเชน* กลับตรงกันข้าม เพราะเมื่อปริมาณผู้ใช้เพิ่มขึ้น จะนำไปสู่ ‘ค่าธรรมเนียม’ ที่สูงขึ้น และ ‘ความเร็วในการประมวลผล’ ที่ลดลง ส่งผลให้ประสบการณ์ผู้ใช้งานแย่ลงในภาพรวม

เขาเสริมอีกว่า แม้จะมีบล็อกเชนใหม่ที่สามารถปรับปรุงความเร็วการประมวลผลได้ ก็เป็นเพียงการ ‘ลดแรงเสียดทาน’ เท่านั้น ไม่ได้หมายถึงการเพิ่มมูลค่าเครือข่ายในระดับแบบทวีคูณ

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในวงการ *คริปโต* หลายรายได้ออกมาแย้งว่าการวิเคราะห์ของซานโตสนั้นยัง ‘เข้าใจผิด’ เกี่ยวกับแก่นของเทคโนโลยีบล็อกเชน โดย แจสเปอร์ เดอ มาเอร์ นักกลยุทธ์จากบริษัทตลาดคริปโต *วินเทอร์มิวต์* แย้งว่า ไม่ควรใช้ตรรกะของแอปพลิเคชันผู้บริโภคมาตีความ *เลเยอร์ 1 (L1)* ของบล็อกเชน เพราะเอฟเฟกต์เครือข่ายของ L1 นั้นเกิดขึ้นที่ ‘ตัวตรวจสอบธุรกรรม (Validator)’ ความปลอดภัยเครือข่าย และ ‘สภาพคล่อง’ มากกว่าจำนวนผู้ใช้เพียงอย่างเดียว

ทางด้าน โธมัส ฟานตา นักลงทุนจากบริษัท *ฮาร์ทคอร์* ก็แสดงความเห็นว่า ในบล็อกเชนระดับสูง แม้การใช้งานจะเพิ่มขึ้น แต่ *ค่าธรรมเนียม* กลับอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกัน ‘สภาพคล่อง’ และ ‘ผลตอบแทน’ ก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย

เบน ฮาวี นักวิจัยจากบริษัท *คีย์ร็อก* ก็เห็นตรงกันกับข้อวิจารณ์ว่าราคาของ L1 บางสายได้รับการประเมินสูงเกินจริง แต่ย้ำว่าไม่สามารถเหมารวมทุกเครือข่ายได้ เพราะยังมีปัจจัยด้าน ‘การขยายโปรโตคอล’ และ ‘การผสานกับ AI’ ที่ต้องนำมาพิจารณาในการประเมินมูลค่าด้วย

ซานโตสยังยกตัวอย่างโดยใช้อัตราผู้ใช้บนเชน เพื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าตลาดโดยรวม โดยระบุว่า หากไม่นับบิตคอยน์แล้ว มูลค่ารวมของตลาดคริปโตอยู่ที่ราว 1.26 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,852 ล้านล้านวอน เมื่อหารด้วยจำนวนผู้ใช้บนเชนราว 40-70 ล้านคน จะพบว่ามูลค่าต่อ 1 ผู้ใช้อยู่ที่ระดับราว 18-46 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทเมตา(เฟซบุ๊ก) ที่มีผู้ใช้งาน 3.1 พันล้านคน มีมูลค่าตลาด 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเทียบได้เพียง 750,000 บาทต่อผู้ใช้เท่านั้น

ซานโตสมองว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า *มูลค่าต่อผู้ใช้ในตลาดคริปโตนั้นสูงเกินจริง* อย่างไรก็ตาม หนึ่งในประเด็นโต้แย้งคือเมตาเป็นบริษัทที่มีโมเดลรายได้ชัดเจนและหลากหลาย ในขณะที่คริปโตยังไม่มีโมเดลธุรกิจถาวรชัดเจน กล่าวคือ การเปรียบเทียบเช่นนี้อาจไม่แฟร์นัก

ข้อถกเถียงว่า ‘มูลค่าเครือข่าย’ ที่แท้จริงของ *เครือข่ายบล็อกเชน* คืออะไร และโมเดลการประเมินมูลค่าแบบอินเทอร์เน็ตผู้บริโภค สามารถนำมาใช้กับโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนได้หรือไม่ ยังคงเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบแน่ชัด และมีแนวโน้มว่า ‘สงครามความคิด’ ในประเด็นนี้จะดำเนินต่อไปอีกพักใหญ่

*ความคิดเห็น:* บทวิเคราะห์นี้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่แตกต่างของตลาด ที่กำลังถกเถียงกันอย่างเข้มข้นว่า มูลค่าในโลกคริปโตควรถูกวัดด้วย ‘ผู้ใช้งานปลายทาง’ หรือว่าควรมองความสำคัญจากชั้นโครงสร้างของเทคโนโลยีเป็นหลัก ด้วยความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในวงการ โปรโตคอลที่เน้น ‘ความปลอดภัย’ และ ‘ประสิทธิภาพเชิงโครงสร้าง’ น่าจะเป็นหัวใจของมูลค่าที่แท้จริงมากกว่าการวัดแค่จำนวนผู้ใช้บนเชนเท่านั้น

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1