บิตคอยน์(BTC) พุ่ง 5% ทะลุ 82,000 ดอลลาร์ หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เป็นไปตามคาด
บิตคอยน์(BTC) ดีดตัวขึ้น 5% กลับมายืนเหนือระดับ 82,000 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากตัวเลข ‘ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล’ (PCE) ของสหรัฐฯ ออกมาตรงตามที่ตลาดคาดการณ์ ส่งสัญญาณเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย ส่งผลให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงคริปโตเคอร์เรนซีตอบรับเชิงบวก
เมื่อวันที่ 28 (เวลาท้องถิ่น) Cointelegraph รายงานว่าบิตคอยน์ร่วงลงไปแตะระดับ 78,197 ดอลลาร์ก่อนจะดีดกลับมาเหนือ 82,000 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยหนึ่งในปัจจัยหลักคือ ‘ดัชนี PCE’ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขดังกล่าวเป็นไปตามคาด ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและกระตุ้นแรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยง
บรรดานักลงทุนมองว่ามีโอกาสที่ Fed อาจปรับลดนโยบายการเงินแบบคุมเข้ม ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะเดียวกัน ‘ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ’ (DXY) ร่วงลงจากระดับ 107.45 หลังมีการเปิดเผยตัวเลข PCE
ด้านจูเลียน วิเทล หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Global Macro Investor ระบุว่าภาวะตลาดในปัจจุบันเป็นผลลัพธ์โดยตรงจากนโยบายคุมเข้มของไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา โดยให้ความเห็นว่า “เงื่อนไขทางการเงินกำลังผ่อนคลายอย่างรวดเร็ว และอาจส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในเดือนหน้า” พร้อมเสริมว่าแม้บิตคอยน์กำลังเผชิญแรงขายที่ระดับ 80,000 ดอลลาร์ แต่แนวโน้มดังกล่าวอาจถูกนำมาคำนวณไว้แล้วในตลาด
ขณะนี้ ‘ดัชนี RSI’ ของบิตคอยน์อยู่ที่ระดับ 23 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา สะท้อนว่าตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะ 'ขายมากเกินไป' (Oversold) นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่าความกังวลในตลาดอาจเกินจริง และมีโอกาสเห็นการรีบาวด์ในระยะสั้น
สำหรับแนวโน้มตลาดคริปโตในอนาคต นักลงทุนยังคงจับตาทิศทางนโยบายการเงินของ Fed และสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาค ซึ่งมีแนวโน้มเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะถัดไป 🚀
ความคิดเห็น 0