บริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างคอร์วีฟ(CoreWeave, CRWV) เตรียมระดมทุนสูงสุดถึง 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 87,000 ล้านบาท) ผ่านการออก ‘หุ้นกู้แปลงสภาพ’ ที่จะครบกำหนดในปี 2031 ซึ่งนอกจากจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไปในการดำเนินงานแล้ว ยังมีเป้าหมายเพื่อป้องกัน ‘การลดสัดส่วน’ ของผู้ถือหุ้นเดิมผ่านกลยุทธ์ทางการเงินอีกด้วย
เมื่อวันที่ 17 คอร์วีฟเปิดเผยผ่านแถลงการณ์ว่า เตรียมออกหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 69,000 ล้านบาท) โดยมีออปชันเปิดให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อเพิ่มอีก 300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13,000 ล้านบาท) ด้วย โครงสร้างของหุ้นกู้ชุดนี้สามารถแปลงเป็นเงินสด หุ้น หรือการผสมผสานระหว่างทั้งสองแบบได้
เพื่อป้องกัน ‘ความเสี่ยงจากการแปลงหุ้น’ ที่อาจทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมลดลง กรณีมีการแปลงหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญ คอร์วีฟเลือกใช้กลยุทธ์ทางการเงินที่เรียกว่า ‘แคปด์คอล’ (Capped Call) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ทางการเงินที่จะทดแทนผลกระทบของสิทธิการแปลงในกรณีที่ราคาหุ้นสูงกว่าระดับที่กำหนด ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง และรักษาความยืดหยุ่นทางการเงินไปพร้อมกัน
คอร์วีฟก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ภายใต้ชื่อ ‘แอตแลนติก คริปโต’ โดยเริ่มต้นจากการใช้การ์ดจอ GPU ขุดเหรียญอีเธอเรียม(ETH) ก่อนจะปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจในปี 2019 หันมาให้บริการด้านคลาวด์ประสิทธิภาพสูง และระบบประมวลผลปัญญาประดิษฐ์(AI) เต็มรูปแบบ
ปัจจุบัน คอร์วีฟดำเนินการศูนย์ข้อมูลที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ โดยมีศูนย์ข้อมูลในเครือข่ายกว่า 33 แห่งทั่วสหรัฐฯ แม้ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าเงินทุนที่ระดมในรอบนี้จะถูกนำไปลงทุนในศูนย์ข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ในมุมมองของตลาด นักลงทุนมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เร่งขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ ‘ดีมานด์ AI’ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
*ความคิดเห็น*: การระดมทุนครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของบริษัทคริปโตในการเปิดรับกลไกทางการเงินรูปแบบดั้งเดิมมากขึ้น โดยเฉพาะเทคนิคอย่างแคปด์คอล ที่ช่วยดึงดูดนักลงทุนในขณะที่ยังสามารถปกป้องสิทธิผู้ถือหุ้นเดิมได้ด้วย นอกจากนี้ คอร์วีฟยังถูกมองว่าเป็นกรณีศึกษาเด่นของบริษัทที่สามารถ ‘หมุนตัว’ จากธุรกิจคริปโตมาสู่โครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ได้อย่างจริงจังและโดดเด่น
ความคิดเห็น 0