บริษัทบล็อกเชนชื่อดังอย่างริปเปิล(Ripple) ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับธนาคารอมีนา(Amina) จากสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงิน โดยถือเป็นการร่วมมือกับ ‘ธนาคาร’ แห่งแรกของริปเปิลในภูมิภาคยุโรป ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อมอบบริการโอนเงินระหว่างประเทศที่ ‘รวดเร็ว’, ‘ต้นทุนต่ำ’ และ ‘เชื่อถือได้’ โดยไม่ต้องผ่านระบบการโอนเงินแบบดั้งเดิม
การจับมือกันในครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากการบูรณาการสเตเบิลคอยน์ RLUSD ของริปเปิลกับอมีนาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยภายใต้ความร่วมมือนี้ อมีนาจะเริ่มให้บริการชำระเงินด้วย ‘คริปโต’ ทั้งในรูปแบบของสเตเบิลคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ผ่านเครือข่ายของริปเปิล นอกจากนี้ อมีนายังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ และบริษัทลูกในออสเตรียก็ได้รับใบอนุญาตให้บริการภายใต้กฏหมาย MiCA ของสหภาพยุโรปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ไมลส์ แฮร์ริสัน(Myles Harrison) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของธนาคารอมีนา เปิดเผยว่า “บริษัทในสาย Web3 มักพบอุปสรรคเมื่อทำงานร่วมกับระบบธนาคารแบบเดิม โดยเฉพาะในด้านการชำระเงินข้ามพรมแดน” พร้อมระบุว่า “สเตเบิลคอยน์คือกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหานี้” เขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เครือข่ายธนาคารแบบดั้งเดิมไม่สามารถจัดการชำระเงินทั้งสกุลเงินทั่วไปและสเตเบิลคอยน์ในเวลาเดียวกันได้ ขณะที่ริปเปิลสามารถทำเช่นนั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ลูกค้าของเราได้”
ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงยุทธศาสตร์ของริปเปิลในการขยายฐานในยุโรป และชี้ให้เห็นว่า ‘สถาบันการเงินแบบเดิมกำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคการเงินดิจิทัล’ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อองค์กรอย่างอมีนาที่มีความเป็นมิตรต่อคริปโตและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ทำให้การชำระเงินด้วย ‘สเตเบิลคอยน์’ รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอาจกลายเป็นแนวทางหลักในตลาดการเงินยุโรปในอนาคตอันใกล้
*ความคิดเห็น: ความเคลื่อนไหวของริปเปิลในครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการปรับตัวตามกรอบกำกับดูแลใหม่อย่าง MiCA และยืนยันบทบาทของสเตเบิลคอยน์ในฐานะตัวกลางสำคัญที่เชื่อมโยงโลกการเงินยุคเก่ากับระบบการเงินดิจิทัลที่กำลังจะกลายเป็นกระแสหลักในยุโรป*
ความคิดเห็น 0