Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บล็อกเชนเตรียมรับมือคอมพิวเตอร์ควอนตัม บิตคอยน์(BTC) ยังถกเถียงท่าทีรับความเสี่ยง

แม้ว่า ‘ควอนตัมคอมพิวเตอร์’ ยังไม่สามารถเจาะระบบความปลอดภัยของบิตคอยน์(BTC) ได้ในตอนนี้ แต่เครือข่ายบล็อกเชนรายใหญ่หลายแห่งกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ล่าสุด แพลตฟอร์มอย่างอัพทอส(Aptos) ได้เสนอการสนับสนุนลายเซ็นแบบต้านทานควอนตัม ในขณะที่โซลานา(SOL) อยู่ระหว่างทดสอบธุรกรรมแบบต้านทานควอนตัม ขณะที่วงการบิตคอยน์กลับยังมีความเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับปัญหานี้

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวด้าน ‘ความปลอดภัยเชิงควอนตัม’ เริ่มปรากฏชัดมากขึ้น โดยเฉพาะจากกรณีที่อัพทอสเสนอให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปิดใช้ลายเซ็นแบบใหม่ที่ใช้เทคนิคแฮชเป็นหลัก เพื่อป้องกันความเสี่ยงล่วงหน้าโดยไม่ต้องแตะบัญชีเดิม ในทางเดียวกัน โซลานาร่วมมือกับบริษัท Project Eleven ทดสอบระบบที่ใช้ลายเซ็นต้านควอนตัมบนเทสต์เน็ต เพื่อดูว่าระบบใหม่นี้สามารถทำงานได้โดยไม่กระทบประสิทธิภาพของเครือข่ายหรือไม่

ในอีกด้านหนึ่งของวงการ สังคมบิตคอยน์ยังคงถกกันอย่างหนักในเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนของการอัปเกรดให้ระบบต้านควอนตัมได้หรือไม่ แม้ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ควอนตัมเครื่องใดที่สามารถถอดกุญแจส่วนตัวจากกุญแจสาธารณะได้จริง แต่ความกังวลกำลังเร่งเร้า โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุน ที่เชื่อว่าการปฏิเสธความเสี่ยงด้านนี้ของแกนนำในเครือข่าย เป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระทบราคาบิตคอยน์ซึ่งร่วงลงถึง 24% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา

วิทาลิก บูเทอริน(Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) เคยกล่าวว่า ความเสี่ยงจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมไม่ใช่แค่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป โดยอ้างอิงแบบจำลองทำนายที่ชี้ว่า มีโอกาสถึง 20% ที่ภายในปี 2030 จะมีควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่สามารถเจาะระบบสาธารณะได้สำเร็จ แม้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วความน่าจะเป็นจะอยู่ราวปี 2040 เขาย้ำว่าการรอให้เกิดขึ้นจริงแล้วค่อยแก้จะยิ่งเสี่ยงกว่า เพราะการย้ายโครงสร้างระดับโลกอาจต้องใช้เวลาหลายปี ความคิดนี้เริ่มสะท้อนในหลายเครือข่ายที่ตอบสนองต่อความเสี่ยงเชิงโครงสร้างโดยไม่ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก

สำหรับบิตคอยน์ซึ่งใช้การเข้ารหัสแบบเส้นโค้งวงรีเป็นโครงสร้างหลัก ความเสี่ยงอยู่ที่หากมีควอนตัมคอมพิวเตอร์ระดับสูงจริงๆ ก็อาจถอดกุญแจส่วนตัวจากกุญแจสาธารณะได้ และใช้เหรียญในระบบโดยไม่มีใครสังเกตว่าเกิดการลักขโมยขึ้น ถึงแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะเห็นตรงกันว่าระบบดังกล่าวยังห่างไกลจากความเป็นจริง แต่ความขัดแย้งในชุมชนบิตคอยน์อยู่ตรงที่ว่า ควรจะพูดถึงปัญหานี้อย่างเปิดเผยแค่ไหน

อดัม แบค(Adam Back) ซีอีโอ Blockstream คือหนึ่งในผู้ที่ค้านความคิดว่าบิตคอยน์ควรสนใจปัญหานี้ในเวลานี้ โดยย้ำว่าภัยคุกคามควอนตัมยังห่างไกลอีกหลายสิบปี และการโฟกัสกับเรื่องนี้แต่เนิ่นๆ อาจสร้างความตระหนกและส่งผลลบต่อตลาดโดยไม่จำเป็น

ในขณะเดียวกัน นักลงทุน เช่น นิค คาร์เตอร์(Nic Carter) จาก Castle Island Ventures กลับยืนยันว่าการเมินเฉยต่อความเสี่ยงแบบนี้มองในเชิงลบสำหรับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าผูกกับความมั่นใจระยะยาวอย่างบิตคอยน์ เช่นเดียวกับเคร็ก วอร์มกี(Craig Warmke) จาก Bitcoin Policy Institute ที่เตือนว่าความไม่เอาใจใส่นั้นกำลังทำให้นักลงทุนบางรายเลือกกระจายพอร์ตหนีออกจากบิตคอยน์ แม้จะไม่สามารถอธิบายความเสี่ยงทางเทคนิคอย่างชัดเจนก็ตาม

ความไม่ลงรอยจึงเด่นชัดขึ้น เมื่อข้อเสนออย่าง BIP 360 ที่เสนอให้มีทางเลือกในการใช้ลายเซ็นต้านควอนตัม เริ่มถูกพูดถึง โดยผู้สนับสนุนมองว่า การเริ่มต้นตั้งแต่ต้นจะลดความไม่แน่นอนและแสดงถึงความพร้อม ขณะที่ฝ่ายคัดค้านมองว่าเป็นการให้ความชอบธรรมกับภัยคุกคามที่ยังไม่เกิด และอาจทำให้ผู้ใช้สับสนในเรื่องความปลอดภัยของเครือข่าย

แม้ว่า ณ วันนี้ คอมพิวเตอร์ควอนตัมยังไม่สามารถทำลายระบบของบิตคอยน์หรือบล็อกเชนหลักใดได้ แต่สิ่งที่เห็นชัดคือ ‘ความไม่แน่นอน’ กำลังทำให้แต่ละเครือข่ายเลือกหาวิธีสื่อสารกับชุมชนต่างกัน บล็อกเชนอื่นๆ ใช้วิธีเตรียมพร้อมแบบสมัครใจ เช่น การทดสอบหรืออัปเกรดบางส่วนในลักษณะเลือกใช้ได้ โดยไม่ทำให้ตลาดตีความว่าเกิดช่องโหว่ทันที

ตรงข้ามกับบิตคอยน์ ซึ่งข้อจำกัดด้านภาพลักษณ์ทำให้แค่การถกเถียงเรื่องความปลอดภัยในอนาคตก็ถูกแปลความได้ว่าเป็นการตั้งคำถามต่อ ‘แก่นความมั่นคง’ ของตัวบิตคอยน์เอง ผู้มีอิทธิพลในวงการจึงระวังไม่ให้การพูดถึง ‘ภัยในอนาคต’ กลายเป็นการจุดกระแสหวั่นวิตก ขณะที่นักลงทุนก็ยังเรียกร้องความชัดเจนว่า บิตคอยน์มีแผนสำรองไว้หรือไม่ หากจุดเปลี่ยนของ ‘ควอนตัม’ มาถึงเร็วกว่าที่คาด

ท้ายที่สุดแล้ว การถกเถียงเรื่องควอนตัมในบิตคอยน์ไม่ได้อยู่แค่ในวงการเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของ ‘ความเชื่อมั่น’ ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนในวันนี้อย่างมีนัยสำคัญ ความพร้อมแบบไม่ตื่นตระหนก จึงอาจเป็นสมดุลที่วงการคริปโตต้องหาทางไปให้ถึงก่อนเวลาเดินทางมาถึงจริง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1