บิตคอยน์แคช(BCH) กลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ฟื้นตัวได้โดดเด่นที่สุดในตลาดช่วงขาลง ล่าสุดราคาทะยานขึ้นกว่า 20% ท่ามกลางการร่วงของตลาดอัลต์คอยน์ ทำให้มีการคาดการณ์ว่า หากแนวโน้มขาขึ้นยังต่อเนื่อง บิตคอยน์แคชอาจพุ่งแตะระดับ 650 ดอลลาร์ หรือราว 963,000 บาท ภายในช่วงคริสต์มาสปีนี้
ในวันที่ 10 ตุลาคม ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเผชิญกับแรงเทขายอย่างหนัก ส่งผลให้หลายเหรียญปรับตัวลดลงถึง 80% แต่กลับไม่ได้ทำให้ราคาบิตคอยน์แคชได้รับผลกระทบในระดับเดียวกัน โดยหลังจากนั้น กลับฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 20% โดยขณะนี้ราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 595.50 ดอลลาร์ หรือราว 882,000 บาท และมีมูลค่าตลาดราว 11.9 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.76 ล้านล้านบาท หากต้องการเบียดเข้า 10 อันดับเหรียญที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด ต้องทำระดับราคาสูงกว่า 650 ดอลลาร์ให้ได้
ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาดคริปโต Coinglass ระบุว่า เหล่าเทรดเดอร์ชั้นนำในไบแนนซ์กำลังเปิด ‘สถานะซื้อ’ หรือ Long Position ใน BCH เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดังอย่างเกรย์สเกล(Grayscale) ได้ยื่นคำขออนุมัติสร้างกองทุน ETF ที่อ้างอิงกับบิตคอยน์แคชต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) หากได้รับอนุมัติ คาดว่าจะมีเม็ดเงินใหม่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาด ส่งผลให้ BCH มีโอกาส ‘ทะลุแนวต้าน’ ที่ 650 ดอลลาร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดย Grayscale วางแผนจะเปลี่ยนกองทุน BCH แบบปิดที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันให้กลายเป็น ETF และนำไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NYSE Arca หรือ NASDAQ
จากมุมมองด้านเทคนิค บิตคอยน์แคชยังแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยสามารถรักษาระดับแนวรับที่ 450 ดอลลาร์ หรือประมาณ 666,000 บาทไว้ได้ในช่วงตลาดปรับฐานเดือนตุลาคม พร้อมสร้างรูปแบบกราฟ ‘สูงขึ้นทั้งระดับต่ำสุดและสูงสุด’ ซึ่งเป็นลักษณะของแนวโน้มขาขึ้น ล่าสุดได้เกิดแท่งเทียนลักษณะเขียวยาวพร้อมไส้ด้านล่าง หรือการซื้อกลับอย่างรุนแรงที่ราคาต่ำ บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่ยังคงแข็งแกร่ง
การเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบันอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น ขณะที่ RSI หรือดัชนีความแข็งแรงสัมพันธ์ทรงตัวเหนือระดับ 50 ซึ่งเป็นสัญญาณบวกในเชิงเทคนิค โดยมีระดับแนวต้านสำคัญที่ 615 ดอลลาร์ หรือราว 910,000 บาท หากฝ่าผ่านแนวนี้ได้ในกราฟรายวัน ราคามีโอกาสไต่ขึ้นสู่โซน 650–652 ดอลลาร์ (ประมาณ 963,000–965,000 บาท) ได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถผ่านแนวดังกล่าวไปได้ ก็มีแนวรับที่คาดว่าจะรองรับราคาคือบริเวณ 560 ดอลลาร์ หรือราว 829,000 บาท ซึ่งเป็นแนวโน้มเส้นขาขึ้นเดิมและอาจเป็นจุดเข้าซื้อของนักลงทุนได้เช่นกัน
ในแง่ของภาวะตลาดช่วงปลายปี หากบิตคอยน์แคชสามารถทำลายแนวต้านใหญ่และพุ่งสู่ระดับราคาใหม่ได้สำเร็จ อาจสร้างความหวังใหม่แก่กลุ่มเหรียญทางเลือกหรือ “อัลต์คอยน์” โดยเฉพาะบรรดาเหรียญสายมีมอย่าง ‘แม็กซี่โดจิ(MAXI)’ ที่กำลังได้รับความสนใจในช่วงพรีเซลล์
MAXI เป็นมีมโทเคนที่มีโมเดลการพัฒนาคล้ายกับโดจิคอยน์(DOGE) โดยในช่วงปลายปี 2024 เคยสร้างผลตอบแทนกว่า 2 เท่าให้กับนักลงทุน ล่าสุดโครงการเผยว่า ได้เปิดตัวช่องทางสื่อสารชื่อว่า ‘Alpha Channel’ เพื่อให้ข้อมูลด้านการลงทุน กลยุทธ์การเทรด และโอกาสใหม่ในตลาด โดยเพียงในช่วงพรีเซลล์รอบแรกก็สามารถระดมทุนได้ถึง 4.3 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 63 ล้านบาทในเวลาอันรวดเร็ว ขณะนี้โทเคนกำหนดราคาไว้ที่ 0.000274 ดอลลาร์ พร้อมมอบผลตอบแทนการสเตกสูงถึง 72% ต่อปีให้ผู้ร่วมลงทุนอีกด้วย โดยสามารถเข้าถึงได้ง่ายทั้งผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบัตรเครดิต
*ความคิดเห็น: ด้วยสัญญาณทางเทคนิคที่เข้มแข็ง และปัจจัยสนับสนุนอย่าง ETF บิตคอยน์แคชดูจะมีโอกาส ‘วิ่งแรง’ เป็นพิเศษในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ขณะที่โปรเจกต์อย่าง MAXI ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นักเก็งกำไรไม่ควรมองข้ามในบรรยากาศตลาดที่เริ่มมีแรงบวกแบบนี้*
ความคิดเห็น 0