นักลงทุนใหญ่เทขาย ‘บิตคอยน์(BTC)’ – ‘อีเธอเรียม(ETH)’ กดดันตลาดคริปโต ขณะ BMNR ถือครอง ETH มหาศาล

นักลงทุนรายใหญ่เริ่มลดการถือครอง ‘บิตคอยน์(BTC)’, ‘อีเธอเรียม(ETH)’ และ ‘ริปเปิล(XRP)’ อย่างต่อเนื่อง สร้างแรงกดดันขายในตลาดคริปโตโดยรวม ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังตึงตัว จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการตอบรับที่ไม่รุนแรงต่อการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ สะท้อนความอยากเสี่ยงของตลาดที่อยู่ในระดับต่ำ

ความต้องการซื้อยังอ่อนแรง โดยเห็นได้จากการสะสมสินทรัพย์ในกองทุนคลังที่ช้าลง และมีผู้ซื้อในจังหวะย่อตัวน้อยลงกว่ารอบก่อน ด้าน ‘บิตคอยน์’ กำลังทดสอบแนวรับทางเทคนิคระยะยาวซึ่งเคยนำไปสู่การปรับฐานขนาดใหญ่ในอดีต

ในอีกด้านหนึ่ง ‘BitMine Immersion Technologies (BMNR)’ เปิดเผยว่าถือครอง ‘อีเธอเรียม’ อยู่ราว 3.97 ล้านเหรียญ ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2025 นอกจากนี้ ยังถือครอง ‘บิตคอยน์’ อีก 193 เหรียญ, เงินสดอีก 1 พันล้านดอลลาร์ และมีการลงทุนในหุ้นของบริษัท Eightco Holdings มูลค่า 38 ล้านดอลลาร์ โดยรวมแล้วกองทรัพย์สินคริปโต เงินสด และทรัพย์สินความเสี่ยงสูง (moonshots) มีมูลค่าประมาณ 13.2 – 13.3 พันล้านดอลลาร์

มูลค่า ‘อีเธอเรียม’ ที่เกือบ 4 ล้านเหรียญ ถือเป็นตัวเลขที่โดดเด่น แต่เรื่องสำคัญกว่านั้นคือ สัดส่วนของสินทรัพย์คริปโตเทียบกับมูลค่าตลาดของหุ้น BMNR โดยในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2025 BitMine มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ราว 13 พันล้านดอลลาร์ โดยราคาหุ้นเคลื่อนไหวในช่วง 30 ดอลลาร์ และมีจำนวนหุ้นประมาณ 425.8 ล้านหุ้น

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม บริษัทเพิ่มการถือครอง ‘อีเธอเรียม’ อีก 140 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก Arkham ซึ่งทำให้ขนาดของสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทใกล้เคียงกับมูลค่ารวมของบริษัทในตลาด นั่นหมายความว่า มูลค่าหุ้นของ BMNR ถูกขับเคลื่อนจากมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถือครอง มากกว่าผลการดำเนินงานแบบดั้งเดิม

แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงในปีที่ผ่านมา แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่า BMNR ซื้อขายในระดับที่มีค่า P/E สูง ซึ่งสะท้อนถึงการที่ตลาดประเมินบริษัทแห่งนี้ในฐานะ "คลังกองทุนคริปโต" มากกว่าจะเป็น "บริษัทดำเนินงาน" แบบปกติ

ในมุมมองของการประเมินมูลค่ารูปแบบคลังทุน สิ่งที่ต้องใส่ใจไม่ใช่แค่มูลค่าของ ‘อีเธอเรียม’ ที่ถืออยู่ แต่ต้องดูว่าแต่ละหุ้นในบริษัทมีสิทธิในทรัพย์สินเหล่านั้นมากน้อยเพียงใด ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นทั้งหมด รวมถึงหุ้นที่อาจเกิดขึ้นจาก ‘warrant’ และ ‘pre-funded warrant’ ที่สามารถเปลี่ยนเป็นหุ้นได้ในอนาคต

BitMine มีดีลทางการเงินในปี 2025 ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนผ่านการออกหุ้นใหม่ 36.3 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 4.50 ดอลลาร์ พร้อมกับสิทธิ์ซื้อหุ้นอีกกว่า 11 ล้านหุ้น และแพ็คเกจทางการเงินอื่น ๆ ที่อาจสร้าง dilution ต่อผู้ถือหุ้นเดิม

ความสำคัญคือ การเพิ่มการถือครอง ‘ETH’ ไม่ได้แปลว่ามูลค่าต่อหุ้นจะเพิ่มขึ้น เพราะหากจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นตามไปด้วย มูลค่าทรัพย์สินที่แต่ละหุ้นมีสิทธิก็อาจไม่ได้เพิ่มตาม จึงต้องพิจารณาทั้งขนาดของการถือครองคริปโต และจำนวนหุ้นอย่างรอบด้าน

แม้บริษัทจะแสดงข้อมูลการถือครองคริปโตอย่างโปร่งใส แต่เพื่อสรุปมูลค่าที่แท้จริงจำเป็นต้องดูงบดุลเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงหนี้สิน ภาระตามสัญญาเช่า ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย และจำนวนหุ้นปรับลดทั้งหมด

สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ ขนาดของคริปโตที่ถืออยู่ของบริษัท ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ของ BMNR มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับราคาของ ‘ETH’ ซึ่งเป็นความเป็นจริงด้านโครงสร้าง ไม่ใช่การคาดการณ์ราคาในอนาคต

อีกประเด็นสำคัญคือ มาตรฐานบัญชีในสหรัฐเปลี่ยนแปลงไป โดยตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2024 เป็นต้นไป บริษัทต้องวัดมูลค่าคริปโตตามราคาตลาด และแสดงการเปลี่ยนแปลงในรายงานรายได้ ซึ่งจะส่งผลให้กำไรหรือขาดทุนของบริษัทอาจผันผวนตามราคาคริปโต แม้จะไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้น

ผู้ลงทุนบางรายอาจเริ่มประเมินบริษัทคริปโตจากมูลค่าทรัพย์สินโดยรวม มากกว่าผลประกอบการแบบดั้งเดิม ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ เตือนว่าบริษัทที่มีการถือครองหรือเชื่อมโยงคริปโตจะเผชิญความเสี่ยงสูง ทั้งด้านราคาที่ผันผวน ระบบรับฝากสินทรัพย์ และภัยคุกคามทางไซเบอร์

สำหรับนักลงทุน ‘อีเธอเรียม’ แล้ว มูลค่า ‘BMNR’ อาจไม่ได้ชี้ให้เห็นถึงพื้นฐานของ ‘ETH’ โดยตรง แต่สะท้อนว่า BitMine ทำหน้าที่คล้าย ‘ตัวแทนซื้อขาย ETH’ ผ่านตลาดหุ้น ราคาหุ้นมีแนวโน้มเคลื่อนไหวตาม ETH แต่ในขณะเดียวกันก็อาจแปรปรวนผิดเพี้ยนได้จากปัจจัยเฉพาะตัว เช่น การเพิ่มทุน การเปิดเผยทางการเงิน หรือหนี้สิน

ด้วยเหตุนี้ ราคาหุ้น BMNR อาจไม่ได้เป็นสัญญาณราคาที่สะอาดสำหรับ ‘ETH’ และไม่สะท้อนอุปสงค์ในเครือข่ายแบบออนเชนโดยตรง แต่เป็นภาพสะท้อนว่า ‘ETH’ เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างบริษัทในตลาดทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งการตัดสินใจของผู้บริหารอาจมีผลมากกว่าตัวโปรโตคอลเอง

บทความนี้ไม่มีคำแนะนำด้านการลงทุน และผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลด้วยตนเองก่อนตัดสินใจ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ทั้งด้านราคาตลาดและโครงสร้างการถือครอง Cointelegraph ไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใด ๆ จากการใช้ข้อมูลในบทความนี้