สำนักงานประกันเงินฝากแห่งสหรัฐฯ (FDIC) เสนอแนวทางใหม่ที่จะเปิดทางให้ธนาคารสามารถออก *สเตเบิลคอยน์* ผ่านบริษัทย่อยได้ ซึ่งการเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลและภาคอุตสาหกรรมคริปโตเกี่ยวกับการให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือ *สเตเบิลคอยน์* ผ่านแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม
โดย *สมาคมบล็อกเชน (Blockchain Association)* องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ทำหน้าที่สนับสนุนคริปโตในสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านธนาคาร โดยมีผู้ร่วมลงชื่อมากกว่า 125 กลุ่มและบริษัทในอุตสาหกรรม เพื่อคัดค้านข้อเสนอห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการบุคคลที่สาม หรือแพลตฟอร์มต่างๆ มอบรางวัลหรือสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ถือ *สเตเบิลคอยน์*
จดหมายระบุว่า การขยายข้อห้ามที่มีอยู่ในแนวทางกำกับดูแล *GENIUS* ซึ่งห้ามผู้ออก *สเตเบิลคอยน์* มอบผลตอบแทนแก่ลูกค้าโดยตรง ไปยังบุคคลที่สามด้วยนั้น เป็นการขัดขวางนวัตกรรม และอาจนำไปสู่การรวมศูนย์ทางการเงินมากยิ่งขึ้น ทางสมาคมยังเปรียบเทียบผลตอบแทนจากคริปโตว่าเป็นกลยุทธ์การแข่งขันในตลาด เช่นเดียวกับโปรโมชั่นหรือรางวัลจากบัตรเครดิตและบริการการเงินแบบดั้งเดิม
*“การปิดกั้นแพลตฟอร์มคริปโตจากการเสนอตัวเลือกที่คล้ายคลึงกัน เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ให้บริการการเงินกระแสหลักแบบไม่เป็นธรรม”* สมาคมกล่าว พร้อมชี้ว่าในตลาดที่มีการแข่งขัน สุทธิประโยชน์และแรงจูงใจเป็นเรื่องปกติ และช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ
ในขณะเดียวกัน FDIC ได้เผยแพร่ข้อเสนอเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่าธนาคารสามารถออก *สเตเบิลคอยน์* ผ่านบริษัทย่อยได้ โดยทั้งตัวธนาคารหลักและบริษัทย่อยจะต้องอยู่ภายใต้การประเมินจาก FDIC เรื่องความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงต้องมีการกันสำรองทุนที่เหมาะสม
ท่ามกลางการถกเถียง สมาคมบล็อกเชนยังยืนกรานว่า ข้ออ้างที่ว่า *สเตเบิลคอยน์แบบมีผลตอบแทน* เป็นภัยต่อธนาคารหรือการปล่อยสินเชื่อนั้น *ไม่มีหลักฐานรองรับ* พร้อมระบุว่า ความสามารถในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารไม่ได้ถูกจำกัดโดยเงินฝากของลูกค้าอย่างที่กล่าวอ้าง
แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ภาคธนาคารยังคงผลักดันให้มีการห้ามแพลตฟอร์มคริปโตจากการมอบผลตอบแทนแก่ลูกค้า ด้วยเกรงว่าอัตราดอกเบี้ยที่เสนอในผลิตภัณฑ์สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้จะ *แย่งส่วนแบ่งตลาด* จากธนาคารในระยะยาว
*ความคิดเห็น*: การดึงอุตสาหกรรมธนาคารเข้ามาออก *สเตเบิลคอยน์* อาจเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัลและการเงินแบบกระจายศูนย์สามารถอยู่ร่วมกับระบบการเงินแบบดั้งเดิมได้อย่างเป็นธรรมและยั่งยืน
ความคิดเห็น 0