ตลาดฟิวเจอร์สของอีเธอเรียม(ETH) กำลังเผชิญกับการปรับตัวครั้งใหญ่ หลังจากที่มีการ *ลดเลเวอเรจอย่างรุนแรง* โดยตัวชี้วัดสำคัญอย่าง *โอเพนอินเทอเรสต์(Open Interest)* ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในตลาดสปอต ราคาของอีเธอเรียมจะดีดกลับขึ้นไปแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 444 ล้านบาท) แต่ภาพรวมในตลาดอนุพันธ์ยังคงส่งสัญญาณ ‘การชะลอตัว’
บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชนอย่างอัลฟรัคทัล(Alphractal) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปริมาณโอเพนอินเทอเรสต์ของตลาดฟิวเจอร์สอีเธอเรียมลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง ถือเป็นการสะท้อนว่านักลงทุนจำนวนมากกำลังทยอย *ลดความเสี่ยง* ด้วยการปิดโพสิชัน โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ดำเนินกลยุทธ์แบบ *เลเวอเรจสูง*
โอเพนอินเทอเรสต์ หมายถึง สัญญาฟิวเจอร์สที่ยังไม่ได้ชำระราคาหรือปิดค่าโพสิชัน หากตัวเลขนี้ลดลง แปลว่านักลงทุนกำลังเทขายหรือลดความเสี่ยง ซึ่งมักเป็นจังหวะของ *การพักฐาน* หรือ *การปรับโครงสร้างตลาด*
อัลฟรัคทัลแสดงความเห็นว่า การลดลงของโอเพนอินเทอเรสต์ในรอบนี้ เป็นผลจากการที่นักลงทุนรายใหญ่และสถาบันเริ่มลดการซื้อแบบเชิงรุกและลดการเปิดรับความเสี่ยง ตลาดอีเธอเรียมจึงอยู่ในช่วง *ปรับโครงสร้างเลเวอเรจอย่างรวดเร็ว*
ข้อมูลจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ สะท้อนแนวโน้มดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยในไบแนนซ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ รายใหญ่ที่สุดในโลก ปริมาณโอเพนอินเทอเรสต์ของฟิวเจอร์สอีเธอเรียมลดลงถึง 31% เหลือเพียงราว 7.64 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.13 ล้านล้านบาท) ขณะที่เกตไอโอ(Gateio) ลดลง 15% เหลือ 3.72 พันล้านดอลลาร์, HTX ลดลง 12.65% เหลือ 3,120 ล้านดอลลาร์ และไบบิท(Bybit) ลดลง 10.25% เหลือ 2.53 พันล้านดอลลาร์ ตลาดอื่น ๆ เช่น ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid) และบิทเก็ต(Bitget) ก็มีการลดลงในอัตราใกล้เคียงกัน
การลดลงของโอเพนอินเทอเรสต์แบบทั่วกระดานบ่งชี้ว่า ตลาดเข้าสู่ช่วง *‘ดีเลเวอเรจจิ้ง’ (Deleveraging)* — เป็นช่วงที่นักลงทุนชะลอการเทรดแบบใช้เงินกู้ และเริ่มเน้นการรักษาเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งในระยะสั้นอาจส่งผลให้โอกาสในการเกิด *ราคาพุ่งแรงหรือร่วงแรง* มีแนวโน้มลดลง
ขณะเดียวกัน ก็มีสัญญาณของ *แรงจูงใจในการถือครอง* อีเธอเรียมเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยจำนวน ETH ที่ถูกถอนออกจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ในช่วงหลังอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2016 การที่ผู้ลงทุนย้าย ETH ออกจากแพลตฟอร์มบ่งชี้ถึงการวางแผนถือครองระยะยาว และลดปัจจัยกดดันจากแรงขายในระยะสั้น
‘การย้ายเหรียญออกจากตลาด’ ถือเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคา เพราะมันหมายความว่า *อุปทานที่พร้อมขายในตลาดลดลง* แม้ว่าการลดลงของโอเพนอินเทอเรสต์จะบ่งชี้ว่าความผันผวนมีแนวโน้มลดลง แต่เมื่อพิจารณาร่วมกับการสะสมเหรียญ จะเห็นว่าตลาดกำลังสะสมพลังสำหรับการเคลื่อนไหวรอบใหม่
*ความคิดเห็น* นักวิเคราะห์หลายฝ่ายประเมินว่า ด้วยโครงสร้างตลาดปัจจุบัน อีเธอเรียมยังไม่พร้อมจะเข้าสู่ช่วง *ขาขึ้นเต็มตัว* อย่างไรก็ตาม การลดเลเวอเรจในวงกว้าง และการสะสมเหรียญนอกตลาดซื้อขาย ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ *ระยะสร้างฐานใหม่* ที่อาจนำไปสู่การฟื้นตัวในอนาคต
สรุปได้ว่า อีเธอเรียมอาจอยู่ในช่วงศูนย์รวมพลังครั้งใหม่ หลังผ่านความผันผวนและการดีเลเวอเรจอย่างหนัก ซึ่งอาจเตรียมปูทางสู่ความผันผวนน้อยลงในระยะสั้น และการฟื้นตัวแบบมั่นคงในระยะยาว
ความคิดเห็น 0