ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่สอง สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มฟื้นตัวโดยเฉพาะในช่วงใกล้สิ้นปี ทั้งบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ต่างปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังไม่สามารถฝ่าระดับแนวต้านสำคัญได้ชัดเจน
เมื่อวันที่ 26 (เวลาท้องถิ่น) มูลค่ารวมของตลาดคริปโตอยู่ที่ประมาณ 3.07 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 4,434 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นราว 1% จากวันก่อนหน้า ขณะที่ปริมาณการซื้อขายยังคงอยู่ที่ระดับ 91,400 ล้านดอลลาร์ บ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงให้ความสนใจ แม้เข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปีที่โดยปกติจะมีกิจกรรมการซื้อขายลดลงก็ตาม
การที่เหรียญหลักส่วนใหญ่กลับมาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับต่ำสุด ถือเป็นสัญญาณ ‘การฟื้นตัวของความเชื่อมั่น’ โดย 9 จาก 10 สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดปิดบวก โดยเฉพาะ ‘บิตคอยน์’ ที่ยังเคลื่อนไหวใกล้แนวต้านทางจิตวิทยา 90,000 ดอลลาร์
บิตคอยน์ล่าสุดขยับขึ้น 1.4% สู่ระดับ 88,681 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.27 ล้านบาท) แม้ยังไม่ทะลุ 90,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา กาเบรียล เชลบี หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ของ CFBenchmarks ประเมินว่า “บิตคอยน์ยังเผชิญแรงขายและแนวต้านโครงสร้างที่แข็งกร้าว โดยรูปแบบกราฟยังคงอยู่ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการปรับฐานในระยะสั้น” ขณะที่นักเทรดส่วนใหญ่ยังไม่พบจุด breakout ที่ชัดเจน แม้มีการรอคอยมาหลายสัปดาห์
ตลาดวิเคราะห์ 10xรีเสิร์ช เชื่อว่าบิตคอยน์กำลังอยู่ใน ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ โดยระบุถึงสัญญาณร่วมกันทั้งจาก ‘ตำแหน่งของสัญญาออปชัน’, ‘แรงอัดตัวของความผันผวน’, และ ‘ภาวะหมดแรงของโมเมนตัมทางเทคนิค’ ซึ่งทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่สัญญาณของการพุ่งขึ้นในระยะสั้น แต่เป็น ‘การเริ่มต้นเทรนด์ใหม่แบบต่อเนื่อง’ ได้
10xรีเสิร์ชยังเตือนถึงข้อจำกัดของสภาพคล่อง โดยตั้งแต่เดือนตุลาคมหลังการปรับฐานของหุ้นเทคใหญ่ ยังไม่มีเงินทุนใหม่ไหลกลับเข้าตลาดคริปโตมากนัก จึงคาดว่า หากมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง บิตคอยน์อาจทะลุแนวต้านที่ 89,000 ดอลลาร์ ขึ้นไปสู่ 90,500 ดอลลาร์ และอาจไปถึงโซน 92,000 - 93,000 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 86,000 ดอลลาร์ หากหลุดต่ำกว่านี้ อาจเห็นแรงขายลงถึง 82,000 ดอลลาร์
อีเธอเรียมล่าสุดขยับขึ้น 2.2% สู่ระดับ 2,967 ดอลลาร์ (ประมาณ 428,500 บาท) นับเป็นการดีดตัวแรงที่สุดในรอบหลายวัน แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 3,000 ดอลลาร์ได้ แม้ว่าตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมจะมีความพยายามเจาะระดับนี้หลายครั้งแต่ยังไม่สำเร็จ นั่นสะท้อนว่าตลาดยังขาด ‘ความมั่นใจในโมเมนตัมขาขึ้น’ และปริมาณการซื้อขายยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย หากอีเธอเรียมสามารถยืนเหนือ 3,000 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง มีโอกาสขยับขึ้นต่อไปยังช่วง 3,150 - 3,300 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,850 ดอลลาร์ และโซน 2,700 - 2,750 ดอลลาร์
ด้าน ‘ดัชนีความกลัวและความโลภ’ ของตลาดคริปโตยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยอยู่ที่ 27 จุด ซึ่งจัดอยู่ในโซน ‘ความกลัว’ แม้จะดีขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 15 จุดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน แต่ยังไม่สามารถพลิกกลับเป็นความเชื่อมั่นได้ ส่งผลให้นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการเข้าซื้อ
เม็ดเงินจากภาค ETF ยังไม่ฟื้นตัวอย่างแท้จริง โดยเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นักลงทุนได้ถอนเงินกว่า 175 ล้านดอลลาร์ออกจาก ETF บิตคอยน์ในสหรัฐ โดยกองทุน IBIT ของแบล็คร็อกมีเงินไหลออกมากที่สุดถึง 91.3 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน อีเธอเรียม ETF ก็เผชิญแรงขายหนัก โดยมีเงินไหลออกสุทธิราว 52.7 ล้านดอลลาร์ นำโดย ETHE ของเกรย์สเกล และ ETHA ของแบล็คร็อก
ในอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลรัสเซียและธนาคารรายใหญ่ในประเทศเริ่มแสดงท่าทีหนุนการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในภาคการเงินจริง โดย ‘สเบอร์แบงก์’ ธนาคารรัฐรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย อยู่ระหว่างการพิจารณาให้บริการ ‘สินเชื่อ ที่ใช้คริปโตเคอร์เรนซีเป็นหลักประกัน’ ระบุว่า พร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลในการขยายโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมการเงินแบบคริปโต และก้าวสู่ระบบบริการทางการเงินรูปแบบใหม่เพื่อรองรับการเติบโต ของทรัพย์สินดิจิทัล
‘ความคิดเห็น’: หากแนวโน้มดังกล่าวพัฒนาต่อไปในระดับนโยบาย ก็อาจกลายเป็นอีกปัจจัยบวกระยะยาว ซึ่งเสริมเสถียรภาพของตลาดคริปโตโดยรวมได้ในอนาคต
ความคิดเห็น 0