ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
อีเธอเรียม(ETH) ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในหลายมิติทางเทคโนโลยีและการยอมรับในระดับนโยบายตลอดปี 2025 อย่างไรก็ตาม 'ราคา' กลับไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของนักลงทุนได้อย่างเต็มที่ แม้จะมีการอัปเกรดระบบครั้งสำคัญและมีสถาบันการเงินเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ราคาของเหรียญ ETH ยังคงอ่อนตัวลง สะท้อนถึงความไม่สมดุลระหว่าง ‘การเติบโตของเครือข่าย’ กับ ‘การตอบสนองจากตลาด’
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของปีนี้ คือการอัปเกรดระบบเครือข่ายครั้งใหญ่ด้วย ‘แพ็กทรา(Pectra)’ และ ‘ฟูซากะ(Fusaka)’ โดยในเดือนพฤษภาคม เครือข่ายได้เปิดตัวอัปเกรด Pectra ซึ่งเพิ่มขีดจำกัดในการสเตกเหรียญของผู้ยืนยันธุรกรรม และปรับใช้ฟีเจอร์ ‘บัญชีแบบนามธรรม’ ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน โดยรวมสิ่งเหล่านี้เป็นการยกระดับทั้ง ‘ความสามารถในการขยายระบบ’ และ ‘ประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย’
ต่อมาในเดือนธันวาคม อัปเกรด Fusaka ถูกปล่อยออกมาโดยเน้นการเพิ่มความเร็วในการประมวลผลธุรกรรมและการจัดเก็บข้อมูลอย่างคุ้มค่า ทั้งยังคงรักษาหลักการพื้นฐานของเครือข่ายเอาไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งนับเป็นอีกก้าวแห่ง ‘นวัตกรรมเชิงเทคนิค’ ที่ช่วยให้ระบบอีเธอเรียมพร้อมรับการขยายตัวในระยะยาว
ในอีกด้านหนึ่ง ปีนี้ยังเป็นปีแห่งการยอมรับในระดับสถาบันอย่างชัดเจน เมื่อมีการเปิดตัวกองทุน ETF อ้างอิงราคาจริงของอีเธอเรียม ซึ่งดึงดูดเงินทุนจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนสถาบัน รวมถึงบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กที่เริ่มใส่ ETH ไว้ในงบดุล นี่แสดงให้เห็นว่าอีเธอเรียมไม่ใช่แค่เทคโนโลยีทดลองอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานหลัก’ ของระบบการเงินยุคดิจิทัล
แต่ในขณะที่เทคโนโลยีและความเชื่อมั่นจากสถาบันเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง กระแสวิจารณ์ภายในชุมชนก็เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นความกังวลเกี่ยวกับ ‘การรวมศูนย์’ ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่วงเงินสเตกถูกขยาย ทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่างสถาบันมีบทบาทมากขึ้นจนเพิ่มความเสี่ยงต่อการควบคุมระบบ นอกจากนี้ ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า กลุ่มนักพัฒนาให้ความสนใจกับโปรเจกต์ระดับเลเยอร์ 2 มากเกินไป จนบั่นทอนนวัตกรรมในตัวโครงข่ายหลัก
ในด้านราคา แม้ ETH จะเคยขึ้นไปแตะ 4,953 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมซึ่งถือว่าทำจุดสูงสุดใหม่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2021 แต่ในเวลาต่อมาก็ร่วงลงใต้วงเงิน 3,000 ดอลลาร์ และตกไปถึงต่ำกว่า 1,500 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน การอ่อนตัวรุนแรงของราคาได้กดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายย่อย และทำให้เกิดกระแส “ขายทิ้ง” ที่ชัดเจนขึ้น
ความคิดเห็น: แม้เครือข่ายอีเธอเรียมจะก้าวหน้าไปอย่างมั่นคงจากอัปเกรดสำคัญและการยอมรับจากภาคสถาบัน แต่ความกังวลด้านราคา, การกระจุกตัวอำนาจของผู้ยืนยัน และความไม่ชัดเจนทางกฎหมาย ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ผู้ลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เส้นทางการเติบโตของอีเธอเรียมยังคงสดใส แต่การปรับตัวของตลาดใช่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันเสมอ
บทสรุปของปี 2025 สำหรับอีเธอเรียมคือ ‘การเติบโตที่ไร้รางวัล’ ราคาที่ร่วงต่ำไม่ได้สะท้อนภาพของการพัฒนาทางเทคนิคและความมั่นใจจากสถาบัน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณให้ผู้เล่นระยะยาวกลับมามองหาจังหวะในการเข้าซื้ออีกครั้ง—แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า เส้นทางเพิ่มมูลค่าของอีเธอเรียมในระยะต่อไป จะไม่ใช่เส้นตรงเสมอไป.
ความคิดเห็น 0