ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าหนุนบิตคอยน์พุ่ง นักวิเคราะห์ชี้สัญญาณตลาดกระทิง

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงกำลังส่งสัญญาณเชิงบวกต่อตลาดคริปโต

เมื่อวันที่ 5 (เวลาท้องถิ่น) ราอูล พาล(Raoul Pal) ซีอีโอของ Real Vision เปิดเผยผ่านบัญชี X (เดิมคือ Twitter) ว่า “ค่าเงินดอลลาร์กำลังอ่อนค่าลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมันก็กำลังลดลง ซึ่งทำให้สภาพแวดล้อมทางการเงินโลกผ่อนคลายอย่างรวดเร็ว” พาลคาดการณ์ว่าปรากฏการณ์นี้จะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้นเทคโนโลยีและตลาดคริปโต

พาลเน้นว่าค่าเงินดอลลาร์เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของตลาดคริปโต โดยอธิบายว่าหากแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง นักลงทุนจะหันมาให้ความสนใจกับสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิตคอยน์(BTC) เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษามูลค่า ขณะเดียวกัน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ(DXY) ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของดอลลาร์ได้ปรับตัวลดลง 2.79% ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ มาอยู่ที่ระดับ 104.270 ในช่วงเวลาเดียวกัน บิตคอยน์ปรับตัวขึ้นประมาณ 6% ทะลุระดับ 91,860 ดอลลาร์

บัญชีวิเคราะห์ตลาดคริปโต Bitcoinsensus ระบุในโพสต์บน X ว่า “ตามสถิติในอดีต เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง บิตคอยน์มักจะมีแนวโน้มขาขึ้น” พร้อมเสริมว่า “หากแนวโน้มขาลงของดอลลาร์ยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลาหลายสัปดาห์ มีความเป็นไปได้สูงที่บิตคอยน์จะอยู่ในช่วงตลาดกระทิงระยะยาว”

แนวโน้มนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต โดยเฉพาะในปี 2020 ในช่วงที่เกิดโควิด-19 เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่และปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ซึ่งช่วยหนุนให้บิตคอยน์พุ่งขึ้นจากระดับ 5,000 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคม 2020 ไปทะลุ 60,000 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน 2021

นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ปัจจัยทางการเมืองของสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาดคริปโต ในอดีต ภายหลังทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี แนวโน้มดอลลาร์แข็งค่ากดดันราคาบิตคอยน์ให้ปรับตัวลดลง เรื่องนี้เคยถูกกล่าวถึงโดย เจมี คูตส์(Jamie Coutts) หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์คริปโตของ Real Vision ที่ระบุว่า “ดอลลาร์ที่แข็งค่าก่อให้เกิดแรงกดดันต่อตลาดบิตคอยน์” พร้อมแนะนำว่านักลงทุนควรระมัดระวังต่อการใช้เลเวอเรจในการซื้อขาย

อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจและนโยบายการเงินเพิ่มเติมว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์ในครั้งนี้จะนำไปสู่ภาวะตลาดกระทิงของคริปโตได้จริงหรือไม่