อีเธอเรียม(ETH) ทดสอบอัปเกรด ‘เพกตรา’ สำเร็จ ใกล้เปิดตัวบนเมนเน็ต

อีเธอเรียม(ETH) กำลังก้าวไปอีกขั้นด้วยการอัปเกรด ‘เพกตรา(Pectra)’ ซึ่งสามารถดำเนินการบนเครือข่ายทดสอบสำหรับนักพัฒนาได้สำเร็จ ทำให้การเปิดตัวบนเมนเน็ตใกล้เข้ามามากขึ้น การอัปเกรดนี้เป็นการรวมกันระหว่างสองชุดการปรับปรุง ได้แก่ ‘ปราก(Prague)’ และ ‘อิเล็กตรา(Electra)’ ซึ่งส่งผลต่อเลเยอร์ปฏิบัติการและเลเยอร์ฉันทามติของอีเธอเรียม

เพกตราเป็นการอัปเกรดที่เกิดขึ้นหลังจากการฮาร์ดฟอร์ก ‘เดนคูน(Dencun)’ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเป้าหมายหลักคือการเพิ่มขีดความสามารถในการขยายเครือข่ายและลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม เทอเรนซ์ เจ้า(Terence Tsao) นักพัฒนาอีเธอเรียม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม เวลา 19:29 น. (UTC) อัปเกรดเพกตราได้ดำเนินการสำเร็จบนเครือข่ายทดสอบเซโพลเลีย(Sepolia) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา โดยทีมงานสามารถดำเนินการทดสอบในขั้นที่สองได้สำเร็จและอัตราการเสนอสร้างบล็อกยังคงอยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ตาม มีปัญหาที่เกิดขึ้นในเครือข่ายทดสอบโฮลสกี(Holesky) จากข้อผิดพลาดในการตั้งค่าตัวตรวจสอบ ส่งผลให้เกิดการแยกตัวของเชน ทางเจ้าให้ข้อมูลว่า "คาดว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องที่เกี่ยวข้องกับยอดคงเหลือของตัวตรวจสอบภายในอย่างน้อย 18 วัน" ทดลองบนเครือข่ายทดสอบเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจก่อนนำไปใช้จริงบนเมนเน็ต และด้วยความสำเร็จของการทดสอบบนเซโพลเลีย ความเป็นไปได้ที่เพกตราจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการก็สูงขึ้น

การอัปเกรดเพกตราจะถูกแบ่งออกเป็นสองช่วง โดยช่วงแรกกำหนดไว้ในกลางเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งจะมีการปรับปรุงที่สำคัญ เช่น เพิ่มขนาดของ ‘บล็อบ(blob)’ ในเลเยอร์-2 เป็นสองเท่าเพื่อลดค่าธรรมเนียม อนุญาตให้ใช้เหรียญสเตเบิลคอยน์อย่าง USDC และ DAI เพื่อชำระค่าก๊าซ และเพิ่มขีดจำกัดการสเตกของตัวตรวจสอบจาก 32 ETH เป็น 2,048 ETH ส่วนช่วงที่สองคาดว่าจะเกิดขึ้นปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026 โดยเน้นไปที่การพัฒนา ‘ต้นไม้เวอร์เคิล(Verkle trees)’ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูล และ ‘เพียร์DAS(PeerDAS)’ ซึ่งช่วยเพิ่มขนาดเครือข่ายให้รองรับธุรกรรมได้มากขึ้น

อัปเกรดนี้รวมถึง 11 ข้อเสนอพัฒนาอีเธอเรียม(EIP) ที่สำคัญ เช่น ‘EIP-7251’ สำหรับการเพิ่มขีดจำกัดการสเตก ‘EIP-7702’ ที่เปิดทางให้บัญชีอัจฉริยะ และ ‘EIP-7691’ สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูลในเลเยอร์-2 หลังจากเพกตรา การอัปเกรดหลักถัดไปคือ ‘ฟุซากะ(Fusaka)’ ซึ่งจะผลักดันการใช้ต้นไม้เวอร์เคิลต่อไป

ความก้าวหน้าของอีเธอเรียมยังคงมุ่งเน้นไปที่การขยายขีดความสามารถของเครือข่ายและปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ ซึ่งเพกตราถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ให้เป็นจริงเร็วยิ่งขึ้น