THORเชนเผชิญแรงกดดัน หลังถูกใช้โอนเงินแฮ็ก Bybit กว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์

THORเชนเผชิญความท้าทายระหว่างหลักการกระจายอำนาจและปัญหาทุนผิดกฎหมาย

เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนืออย่าง ‘ลาซารัส’ ถูกพบว่ามีการใช้ THORเชนเพื่อแปลง อีเธอเรียม(ETH) ที่ถูกขโมยมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์จาก Bybit เป็น บิตคอยน์(BTC) ซึ่งนำไปสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก รายงานระบุว่าเงินที่ถูกโจรกรรมถึง 72% หรือประมาณ 361,255 ETH ถูกโอนผ่าน THORเชน ดึงดูดความสนใจจากหน่วยงานกำกับดูแลทันที

THORเชนเป็นโปรโตคอลสวอปแบบกระจายอำนาจและยืนยันว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้เป็นเพียง ‘การย้ายสินทรัพย์’ ไม่ใช่การฟอกเงินผิดกฎหมาย เฟเดริโก พาเอซาโน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Crystal Intelligence เน้นว่า “THORเชนไม่ใช่เครื่องมือผสมธุรกรรม และธุรกรรมทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้” อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนพบว่ามีเหรียญที่ถูกขโมยจาก Bybit ไหลผ่านระบบของ THORเชนจำนวนมาก ทำให้เกิดข้อกังขาว่าโปรโตคอลนี้กำลังถูกกลุ่มอาชญากรใช้เป็นช่องทางหลบหนี

ความขัดแย้งภายใน THORเชนก็เริ่มปะทุขึ้นเช่นกัน หลังจากที่ผู้ตรวจสอบเครือข่ายบางส่วนพยายามโหวตให้ระงับการสวอปของแฮ็กเกอร์ แต่ก็ถูกผู้ตรวจสอบเครือข่ายกลุ่มอื่นปฏิเสธไม่ให้การโหวตนั้นมีผล ซึ่งนำไปสู่คำถามว่า THORเชนกำลังดำเนินนโยบาย ‘การกระจายอำนาจแบบเลือกปฏิบัติ’ หรือไม่ และเหตุใดจึงเลือกที่จะรักษาความเป็นกลางเฉพาะในกรณีที่อาจส่งผลเสียต่อแพลตฟอร์ม

ข้อถกเถียงนี้ส่งผลให้ ‘พลูโต’ นักพัฒนาหลักของโครงการ ประกาศลาออก ขณะที่นักพัฒนาอีกรายขู่ว่าจะออกจากโครงการหากไม่มีมาตรการแก้ไขปัญหาด้านการกำกับดูแล นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตบนโซเชียลมีเดียว่า THORเชนทำรายได้จากค่าธรรมเนียมธุรกรรมประมาณ 5 ล้านดอลลาร์จากกรณีดังกล่าว ทำให้เกิดข้อกล่าวหาว่าระบบอาจเป็นการสนับสนุนการฟอกเงินโดยอ้อม

แม้ว่า ณ ตอนนี้ THORเชนจะยังไม่ถูกดำเนินมาตรการใด ๆ จากหน่วยงานกำกับดูแล แต่สถานการณ์ในอดีตอย่างกรณีของ Tornado Cash ซึ่งถูกลงโทษโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ในปี 2022 ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า THORเชนอาจเผชิญชะตากรรมเดียวกัน

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหาก THORเชนยังคงทำงานในรูปแบบเดิมโดยไม่มีการแก้ไข อาจนำไปสู่มาตรการคว่ำบาตรหรือการดำเนินคดีทางกฎหมายจากสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของสหรัฐฯ (OFAC) ความท้าทายของ THORเชนในขณะนี้คือจะสามารถรักษาหลักการกระจายอำนาจไว้ได้โดยไม่กลายเป็นช่องโหว่ให้กับอาชญากร หรือจะต้องปรับกลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแทรกแซงจากภาครัฐ

THORเชนจึงอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางใด การตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของโปรโตคอลในโลกของการเงินแบบกระจายอำนาจ