สหรัฐอาจถือครองบิตคอยน์ 1 ล้าน BTC ภายใต้ร่างกฎหมายใหม่ของลัมมิส

วุฒิสมาชิกซินเธีย ลัมมิส(Cynthia Lummis) ได้เสนอร่างกฎหมาย ‘BITCOIN Act’ อีกครั้ง ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐสามารถถือครองบิตคอยน์(BTC) ได้มากกว่า 1 ล้านเหรียญ

ร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกเสนอครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 โดยมีเป้าหมายให้รัฐบาลสหรัฐซื้อบิตคอยน์ปีละ 200,000 BTC เป็นเวลา 5 ปี รวมกันเป็น 1 ล้าน BTC โดยใช้เงินทุนจากการปรับงบประมาณของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม ในฉบับแก้ไขล่าสุด ได้เพิ่มแนวทางการถือครองบิตคอยน์ผ่านช่องทางอื่น เช่น การยึดทรัพย์ตามกฎหมาย การรับบริจาค และการถ่ายโอนทรัพย์สินระหว่างหน่วยงานของรัฐบาล

ลัมมิสกล่าวว่า "การออกกฎหมายตามนโยบายบริหารของประธานาธิบดีจะช่วยให้สหรัฐสามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อจัดการหนี้สาธารณะและรักษาความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจระดับโลก" เธอได้ประกาศร่างกฎหมายนี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ในงานประชุมของสถาบันนโยบายบิตคอยน์(The Bitcoin Policy Institute)

ในการแก้ไขครั้งนี้ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันหลายคนได้ร่วมสนับสนุนร่างกฎหมาย ได้แก่ จิม จัสทิส(Jim Justice), ทอมมี ทูเบอร์วิลล์(Tommy Tuberville), โรเจอร์ มาร์แชลล์(Roger Marshall), มาร์ชา แบล็กเบิร์น(Marsha Blackburn) และเบอร์นี โมเรโน(Bernie Moreno) โดยจัสทิสกล่าวว่า "ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการเงินของสหรัฐ รวมถึงปกป้องความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะ"

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญของฉบับแก้ไขคือ การกำหนดหลักเกณฑ์อย่างเป็นทางการสำหรับสินทรัพย์ที่เกิดจากการโฟร์ก(Fork) และที่ได้จากแอร์ดรอป(Airdrop) โดยในร่างเดิม กำหนดให้รัฐบาลต้องถือครองสินทรัพย์จากการโฟร์กเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่ร่างใหม่ปรับเปลี่ยนให้ถือครองเฉพาะสินทรัพย์หลักตามมูลค่าตลาดและอิทธิพลของมันในระบบนิเวศหลังจากระยะเวลาหนึ่ง

การเสนอร่างกฎหมายครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อจัดตั้ง ‘กองทุนสำรองบิตคอยน์เชิงกลยุทธ์(Strategic Bitcoin Reserve)’ และ ‘กองทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัล(Digital Asset Stockpile)’ ซึ่งใช้คริปโตเคอร์เรนซีที่ยึดจากคดีอาญาและแพ่งในการจัดสรรงบประมาณ โดยตั้งเป้าให้มีการขยายกองทุนโดยไม่กระทบต่อภาระงบประมาณ อย่างไรก็ตาม บิตคอยน์สำรองจะถูกห้ามขายออกสู่ตลาด ขณะที่โทเคนอื่นภายใต้กองทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถขายได้หากจำเป็น

ร่างกฎหมายของลัมมิสสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่รัฐบาลสหรัฐเริ่มพิจารณาบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์มากขึ้น หากร่างกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส นโยบายการถือครองบิตคอยน์ของรัฐบาลสหรัฐก็จะมีความชัดเจนยิ่งขึ้น