ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
เซทัส(Cetus) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์(DEX) บนบล็อกเชนซุย(Sui) เสนอเงินรางวัลแก่แฮกเกอร์เพื่อขอคืนสินทรัพย์ที่ถูกขโมยจากการโจมตีครั้งใหญ่เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการทางกฎหมายหากแฮกเกอร์คืนทรัพย์สินส่วนใหญ่ ยกเว้นทรัพย์สินจำนวน 2,324 อีเธอเรียม(ETH) หรือประมาณ 60 ล้านบาท กลยุทธ์นี้คล้ายกับแนวทางที่เคยนำมาใช้กับกรณีของเครมา ไฟแนนซ์(Crema Finance) ซึ่งเป็นโปรเจกต์บนบล็อกเชนโซลานา(Solana) เมื่อปี 2022 และประสบความสำเร็จในตอนนั้น โดยทั้งสองโปรเจกต์นี้พัฒนาโดยทีมเดียวกัน
การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม และส่งผลให้เซทัสสูญเสียสกุลเงินดิจิทัลรวมมูลค่าประมาณ 223 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,258 ล้านบาท ภายหลังการลอบโจมตี เซทัสพยายามเจรจากับแฮกเกอร์ด้วยการเสนอให้สถานะ *ไวต์แฮกเกอร์* พร้อมเงินตอบแทน เพื่อจูงใจให้คืนสินทรัพย์ที่ขโมยไป
อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวได้รับเสียงตำหนิจากชุมชนผู้ใช้อย่างหนัก หลายคนมองว่าแพลตฟอร์มควรจัดทำแผนชดเชยอย่างเป็นทางการให้กับผู้ใช้งานก่อนดำเนินการใด ๆ กับแฮกเกอร์โดยตรง โดยเฉพาะผู้ถือโทเคน CETUS ที่ต้องเผชิญกับราคาที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังเหตุการณ์ และยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ *ความคิดเห็น* หลายรายแสดงความเห็นว่าความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะสามารถกู้คืนสินทรัพย์ได้หรือไม่
ในอีกด้านหนึ่ง แม้บล็อกเชนซุยจะมีผู้ตรวจสอบธุรกรรมบางรายให้ความร่วมมือในการระงับสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการแฮก แต่นั่นก็ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของ *การรวบอำนาจ* ภายในระบบที่ควรจะกระจายศูนย์ หลายฝ่ายออกโรงวิจารณ์ว่าเรื่องนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการรวมศูนย์ในการดำเนินงานของเครือข่ายซุย
แม้เซทัสจะเลือกใช้วิธีการแบบเดียวกับกรณีของเครมา ไฟแนนซ์ แต่ยังไม่แน่นอนว่าวิธีนั้นจะประสบผลเช่นเดิมหรือไม่ ในระยะสั้น เซทัสอาจต้องให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและมาตรการเยียวยาหลังเหตุการณ์ เพื่อฟื้นความไว้วางใจจากผู้ใช้งานและนักลงทุนที่กำลังสั่นคลอนอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น 0