นักพัฒนาซอฟต์แวร์ชาวอเมริกันตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพระหว่างเดินทางผ่านลอนดอน สูญเสียสกุลเงินดิจิทัลมูลค่ากว่า 123,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 17.5 ล้านบาท หลังถูกวางยาและปล้นทรัพย์
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม เว็บไซต์ข่าว MyLondon รายงานว่า เจคอบ เออร์วิน-ไคลน์ (Jacob Irwin-Klein) วัย 30 ปี จากเมืองพอร์ตแลนด์ ประเทศสหรัฐฯ ประสบเหตุถูกปล้นทรัพย์หลังดื่มสังสรรค์ที่คลับชื่อ Roxie ในย่านโซโห กรุงลอนดอน ขณะเดินทางกลับที่พักในเขตเบย์สวอเตอร์
เขาระบุว่า เรียกรถผ่านแอป Uber แต่กลับมีรถซีดานสีดำซึ่งไม่ใช่รุ่น ‘โตโยต้า พรีอุส’ ตามที่แสดงในแอปมารับ โดยคนขับมีรูปร่างหน้าคล้ายกับโปรไฟล์บนแอปพลิเคชัน ผู้ขับขี่เสนอ ‘บุหรี่’ ให้เขาหนึ่งมวน ซึ่งคาดว่าใส่สาร ‘สโคโปลามีน’ ที่มีฤทธิ์สะกดจิตและทำให้ผู้เสพยอมทำตามคำสั่งโดยง่ายพร้อมสูญเสียความทรงจำ
เออร์วิน-ไคลน์ให้ข้อมูลว่า เขาถูกมอมจนหมดสติและเผลอเปิดเผยรหัสผ่าน รวมถึงเข้าแอปต่างๆ ด้วยตัวเอง ระหว่างนั้นมิจฉาชีพใช้แอป Revolut ดึงเงินจากกระเป๋าเงินดิจิทัล รวมมูลค่า 72,000 ดอลลาร์ในริปเปิล(XRP), และ 50,000 ดอลลาร์ในบิตคอยน์(BTC)
อุปกรณ์ของเขาทั้งโน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือถูกล้างข้อมูลและขโมยไปหมด ต่อมาเพื่อนร่วมห้องในสหรัฐฯ พยายามช่วยเหลือรีเซ็ตบัญชี แต่ไม่สามารถกู้คืนสินทรัพย์ได้ทัน มูลค่าทรัพย์สินดิจิทัลทั้งหมดสูญหายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ตำรวจนครบาลลอนดอนและทีมอาชญากรรมไซเบอร์จาก FBI ได้เริ่มการสืบสวน อย่างไรก็ตาม ‘ความหวังในการกู้คืนสินทรัพย์กลับมีน้อยมาก’
‘ความคิดเห็น’: คดีนี้สะท้อนความเสี่ยงจากการพกพาทรัพย์สินดิจิทัลมูลค่าสูง โดยเฉพาะระหว่างการเดินทางในต่างประเทศ ซึ่งผู้ร้ายอาจใช้ทั้งเทคโนโลยีและยาเสพติดเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามีแนวโน้มเกิดอาชญากรรมลักษณะคล้ายกันหลายกรณีในยุโรป โดยเมื่อช่วงต้นเดือน พฤษภาคม มีรายงานว่าในกรุงปารีสเกิดความพยายามลักพาตัวครอบครัวของปิแอร์ นอยซาต์ CEO ของบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตชื่อดังอย่าง ‘เพย์เมียม’ คนร้ายเล็งเป้าบุตรสาวและหลานของเขาระหว่างเดินทางไปและกลับจากโรงเรียน แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากครอบครัวต่อสู้ขัดขืน
ก่อนหน้านี้ในฝรั่งเศสยังเคยเกิดเหตุการณ์ที่พ่อของมหาเศรษฐีคริปโตถูกลักพาตัว และผู้ร่วมก่อตั้ง Ledger ก็เคยถูกเรียกค่าไถ่ สะท้อนให้เห็นว่า ‘คริปโต’ กำลังกลายเป็นแรงจูงใจใหม่ของการก่ออาชญากรรมรุนแรงในยุโรป
ความคิดเห็น 0