คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ภายใต้การนำของประธานคนใหม่ พอล แอ็ตกินส์ ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนเกี่ยวกับ *นโยบายกำกับดูแลคริปโตเคอร์เรนซี* โดยออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อแนวทางของแกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ประธานคนก่อน พร้อมตั้งเป้านำเสนอแนวทางกำกับดูแลที่ ‘ชัดเจนและยุติธรรม’
เมื่อวันที่ 3 (เวลาท้องถิ่น) ในการแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ แอ็ตกินส์กล่าวว่า *“นโยบายคริปโตของเกนส์เลอร์เป็นหายนะ ทั้งขัดขวางการพัฒนาอุตสาหกรรมและส่งเสริมการฉ้อโกง”* พร้อมย้ำว่า SEC จะเลิกปฏิบัติการแบบ ‘ฟ้องก่อนค่อยกำกับ’ โดยไม่มีกรอบกฎหมายที่ชัดเจน
หลังจากแอ็ตกินส์เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ร่วมกับการดำรงตำแหน่งรักษาการของมาร์ก อูเยดะ (Mark Uyeda) SEC ก็ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงแนวทางแล้ว โดยมีการถอนฟ้องในบางกรณี และเริ่มออกแนวทางปฏิบัติที่เฉพาะเจาะจง เช่น กิจกรรม *การสเตกเหรียญ* ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัล
หนึ่งในการปรับโครงสร้างสำคัญ คือการก่อตั้งหน่วยงานเฉพาะด้านคริปโตภายใน SEC โดยใช้ชื่อว่า *Crypto Task Force* พร้อมแต่งตั้งเฮสเตอร์ เพียร์ซ(Hester Peirce) หนึ่งในกรรมาธิการผู้เป็นที่รู้จักในวงการคริปโต ให้รับหน้าที่ดูแลหน่วยนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมการสื่อสารที่โปร่งใสและเปิดกว้างกับภาคเอกชน
แอ็ตกินส์ย้ำในช่วงท้ายว่า *“SEC จะกลับมาเป็นหน่วยงานกำกับที่ยึดหลักการ และมุ่งเป้าไปที่การจัดการการกระทำผิดจริงเท่านั้น”* พร้อมเสริมว่า *“เราจะสร้างแนวทางที่ชัดเจนเพื่อให้อุตสาหกรรมคริปโตสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง”*
*ความคิดเห็น*: ท่าทีของแอ็ตกินส์อาจพา SEC เข้าสู่ยุคใหม่ที่เน้นการ ‘กำกับด้วยความเข้าใจ’ ซึ่งอาจลดแรงเสียดทานกับอุตสาหกรรมคริปโตลงอย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0