คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ประกาศแนวทางใหม่เมื่อวันที่ 29 ที่อาจเปลี่ยนวิธีที่อุตสาหกรรมคริปโตมองต่อการทำ ‘โปรโตคอลสเตกกิ้ง’ โดยระบุว่า การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวไม่ถือว่าเป็น ‘การเสนอขายหลักทรัพย์’ ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐ
สำนักงานการเงินองค์กรของ SEC ระบุชัดว่า การทำสเตกกิ้งในรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบดำเนินการเอง การมอบหมายให้บุคคลที่สาม และการใช้บริการผู้ดูแลสินทรัพย์ ไม่เข้าเกณฑ์ของการเป็น ‘สัญญาการลงทุน’ ตามหลักการทดสอบฮาววีย์ (Howey Test) ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ใช้ตัดสินว่าเป็นหลักทรัพย์หรือไม่
SEC อธิบายว่ากิจกรรมสเตกกิ้งนั้น เกิดผลตอบแทนจากการดำเนินการเชิงเทคนิคและระบบ ไม่ได้พึ่งพาความพยายามจัดการจากบุคคลที่สามอย่างมีนัยสำคัญ จึงไม่จัดเป็น ‘การลงทุน’ แต่ใกล้เคียงกับการให้บริการในเชิงระบบมากกว่า
คริสโตเฟอร์ เพอร์กินส์ ประธานบริษัท CoinFund มองว่า นี่เป็นก้าวสำคัญต่อความชัดเจนในภาคคริปโต และกล่าวว่า “SEC ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่ภาคอุตสาหกรรมนี้รอคอยมาเป็นเวลานาน”
ในวันเดียวกันนั้น เฟรนช์ ฮิล ประธานคณะกรรมาธิการด้านบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เสนอร่างกฎหมายชื่อว่า ‘Digital Asset Market Structure Clarity Act’ หรือ ‘กฎหมายความชัดเจนของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล’
สาระสำคัญของกฎหมายนี้ คือการกำหนดบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนระหว่าง SEC และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแห่งสหรัฐ (CFTC) ในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะส่งผลให้เกิดกรอบกติกาที่มั่นคงสำหรับบริษัทคริปโต
ฮิลอธิบายว่า “กฎหมายนี้จะเติมเต็มสิ่งที่ระบบสินทรัพย์ดิจิทัลขาดหายมานาน นั่นคือ ‘ความชัดเจน’ และในขณะเดียวกันก็เน้นเรื่อง ‘การคุ้มครองผู้บริโภค’ และ ‘การผลักดันนวัตกรรมในสหรัฐฯ’”
ด้าน ดัสตี้ จอห์นสัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกคนที่ร่วมเสนอร่างกฎหมายนี้ กล่าวเสริมว่า “เราควรผลักดันให้สหรัฐเป็นผู้นำในตลาดโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล แต่จะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีกรอบกำกับที่ชัดเจน”
*ความคิดเห็น*: แนวทางใหม่นี้ของ SEC รวมถึงการผลักดันทางนิติบัญญัติจากสภาผู้แทนราษฎร อาจปูทางไปสู่ภูมิทัศน์ใหม่ของวงการคริปโตในสหรัฐฯ ที่มีทั้งความชัดเจนทางกฎหมายและเปิดพื้นที่สำหรับนวัตกรรมมากขึ้น
ความคิดเห็น 0