ตลาดคริปโตยังคงแสดงแนวโน้มขาขึ้น โดยบิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะ 97,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) ซึ่งเป็นระดับใหม่ที่สำคัญ ปัจจัยหนุนหลักมาจากจำนวนบิตคอยน์ที่อยู่ในกระดานเทรดลดลงเหลือ 2.5 ล้านเหรียญ ขณะที่ความต้องการจากสถาบันต่อตลาดกองทุน ETF บิตคอยน์เพิ่มขึ้นเร็วกว่าความเร็วในการขุดถึง 20 เท่า
มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมเพิ่มขึ้น 3.10% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แตะระดับ 3.22 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 116.65 ล้านล้านบาท) ปริมาณการซื้อขายก็พุ่งขึ้น 22.27% แตะ 129.29 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.69 ล้านล้านบาท) ส่งผลให้ ‘ดัชนีความกลัวและความโลภ’ ดีดขึ้นถึงระดับ 40 สะท้อนถึงสภาวะตลาดที่กลับสู่สถานะกลาง
อีเธอเรียม(ETH) ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 4.33% และมูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้น 33.31% จนแตะ 26.64 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 964,400 ล้านบาท) ขณะที่โซลานา(SOL) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ 0.09% ส่งสัญญาณว่าราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบ
XRP พุ่งขึ้น 2.54% ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อาจอนุมัติคำขอเปิดกองทุน ETF XRP ของ Grayscale ทั้งนี้ หาก SEC ให้ไฟเขียว นักวิเคราะห์ต่างเห็นตรงกันว่า มูลค่าตลาดของ XRP มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในตลาดอัลท์คอยน์ แพนเค้กสวอป(CAKE) เป็นเหรียญที่ทำผลงานได้ดีที่สุด โดยราคาพุ่งขึ้นถึง 57.82% ส่วนบิทเก็ตโทเคน(BGB) ร่วงลง 8.07% ทำให้เป็นหนึ่งในเหรียญที่ขาดทุนมากที่สุดในช่วงนี้
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า แม้ตลาดคริปโตจะมีความผันผวนสูง แต่แนวโน้มการเติบโตของกองทุน ETF บิตคอยน์และการเข้ามาของสถาบันการเงินรายใหญ่ยังคงเป็นปัจจัยหนุนหลักในระยะยาว ทั้งนี้ การตัดสินใจของ SEC เกี่ยวกับ ETF XRP อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางตลาดในอนาคต
ความคิดเห็น 0