เจมส์ วิน นักเทรดคริปโตสายเสี่ยงสูง ขาดทุนกว่า 25 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,475 ล้านบาท) จากการวางเดิมพันบิตคอยน์(BTC)ครั้งใหญ่เมื่อเร็วๆ นี้ โดยวินซึ่งใช้แพลตฟอร์มไฮเปอร์ลิควิด พยายามปรับตำแหน่งเทรดด้วยตัวเองแต่ล้มเหลว ทำให้ถูกบังคับขายถึง 240 BTC ขณะนี้เขายังถือครอง BTC จำนวน 770 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 80 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,112 ล้านบาท) โดยมีสถานะขาดทุนที่ยังไม่ปิดกว่า 1 ล้านดอลลาร์ (ราว 139 ล้านบาท) จากสถานะ Long ที่ใช้เลเวอเรจถึง 40 เท่า
วินเป็นที่รู้จักจากการเปลี่ยนเงิน 0 ดอลลาร์เป็น 87 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,209 ล้านบาท) ภายในเวลาเพียง 70 วัน โดยเขาเคยทำกำไรมหาศาลจากการเทรดเหรียญมีมชื่อดังอย่างเปเป้(PEPE)และทรัมป์(TRUMP) และเคยมีสถานะ Long ในบิตคอยน์มูลค่าสูงถึง 1.14 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.58 ล้านล้านบาท) ในช่วงที่ยังมีกำไรอยู่ 39 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 542 ล้านบาท)
หลังขาดทุน 29 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 403 ล้านบาท) วินได้กลับมาเดิมพันด้วยเงินกว่า 1.25 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.73 ล้านล้านบาท) และเปลี่ยนสถานะเป็นการเทรดฝั่ง Short มูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,529 ล้านบาท) ในวันถัดมา จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนทั้งลูคอนเชนและอัคคัม อินเทลลิเจนซ์ ระบุว่า วินขาดทุนไปรวมกันกว่า 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,390 ล้านบาท) ภายในสัปดาห์เดียว
ล่าสุด วินกล่าวหาว่า *ตลาดถูกจัดฉากเพื่อต่อต้านเขา* และได้เรียกร้องการบริจาคเพื่อเปิดโปง ‘ระบบที่ถูกควบคุม’ นี้
ท่ามกลางความวุ่นวายนี้ จ้าว ฉางผเผิง ผู้ร่วมก่อตั้งไบแนนซ์ เสนอแนวคิดสร้าง DEX แบบดาร์กพูล เพื่อลดปัญหาความโปร่งใสในการซื้อขายฟิวเจอร์สถาวร โดย *จ้าวชี้ว่า* ระบบ DEX ที่แสดงคำสั่งซื้อ–ขายแบบเรียลไทม์ กลับเป็นต้นเหตุของการปั่นราคาและการถูกบังคับขาย เช่นเดียวกับกรณีของวิน
*ความคิดเห็น*: เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงอันรุนแรงของการใช้เลเวอเรจสูง ซึ่งอาจนำไปสู่ความสูญเสียระดับมหาศาลแม้ในหมู่นักเทรดที่มีประสบการณ์สูง
ความคิดเห็น 0