แม้ตลาดคริปโตจะเผชิญกับแรงขายอย่างรุนแรงในช่วงนี้ แต่หนึ่งในประเด็นที่สะดุดตาคือการร่วงลงของสเตลลาร์(XLM) ซึ่งเป็นคู่แข่งของริปเปิล(XRP) โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีโอนเงินระหว่างประเทศ ภายใน 24 ชั่วโมงล่าสุด ปริมาณการซื้อขายของ XLM ลดลงถึง 48.03% มาอยู่ที่ราว 78.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,092 ล้านบาท) สะท้อนถึงภาวะชะลอตัวของนักลงทุนอย่างชัดเจน
แรงกดดันนี้เกิดขึ้นหลังจากราคา XLM ไม่สามารถยืนเหนือเส้นแนวต้านและเริ่มถอยกลับลงมา แม้ก่อนหน้านี้จะมีการดีดกลับขึ้นเล็กน้อยในระยะสั้น แต่ตลอดช่วง 30 วันที่ผ่านมา มูลค่า XLM ก็ยังปรับลดลงไปแล้วถึง 10.57% โดยหลังจากขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 0.2406 ดอลลาร์ ก็ปรับลดมาอยู่ที่ 0.2379 ดอลลาร์ (ราว 331 บาท) ซึ่งนับเป็นการลดลงอีก 0.88% ภายในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
สถานการณ์บ่งชี้ว่า *บิตคอยน์(BTC)* ยังคงรักษาความได้เปรียบเหนือเหรียญอื่น ๆ โดยส่วนแบ่งตลาดของบิตคอยน์ได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 64.6% ซึ่งผลักให้นักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงมากกว่า *ความคิดเห็น* เสริมว่า อิทธิพลของบิตคอยน์ที่แข็งแกร่งในตอนนี้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่บีบให้แรงซื้อในสเตลลาร์ต้องถดถอย
อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับโอกาสการฟื้นตัวของสเตลลาร์ในระยะกลาง เมื่อพิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิคที่ชี้ถึง *การปรับฐานและการสะสมพลังซื้อ* ซึ่งหากมีปริมาณการซื้อขายกลับมาเพิ่ม อาจเป็นแรงผลักดันให้ XLM สามารถเคลื่อนไหวสู่ระดับเป้าหมายระยะสั้นที่ 0.26 ดอลลาร์ (ประมาณ 362 บาท) หรือแม้แต่ 0.30 ดอลลาร์ (ประมาณ 418 บาท) ได้ โดยเฉพาะหากเกิดรูปแบบ *โกลเดน ครอส* ซึ่งนักลงทุนจำนวนมากกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด
อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าจับตามองคือ การที่ *เพย์พาล(PayPal)* กำลังพัฒนาบริการชำระเงินใหม่บนเครือข่ายของสเตลลาร์ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติจากสำนักงานกำกับดูแลทางการเงินนิวยอร์ก(NYSDFS) ซึ่งหากได้รับไฟเขียวและดำเนินการได้จริง ก็อาจช่วยหนุนให้การใช้งานจริงของ XLM เพิ่มขึ้น พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาวให้กับตลาด
ในภาพรวม แม้แนวโน้มระยะสั้นของ XLM ยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่การรวมตัวของปัจจัยพื้นฐานระดับองค์กรและสัญญาณทางเทคนิค ก็ยังคงเป็นตัวช่วยสนับสนุนมูลค่าในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงการฟื้นตัวของปริมาณการซื้อขายและการเปิดตัวพาร์ตเนอร์เชิงยุทธศาสตร์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ความคิดเห็น 0