บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 90,000-105,000 ดอลลาร์ พร้อมส่งสัญญาณแรงซื้อสะสมที่แข็งแกร่ง จากข้อมูลล่าสุดของ ‘CryptoQuant’ บ่งชี้ว่าปริมาณบิตคอยน์ที่ไหลออกจากกระดานเทรดสูงกว่าปริมาณที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
รายงานล่าสุดของ ‘CryptoQuant’ ระบุว่าอัตราส่วนเฉลี่ย 30 วันของการไหลเข้าและออกของบิตคอยน์ในกระดานเทรดยังคงต่ำกว่าระดับ 1 ซึ่งหมายความว่าปริมาณบิตคอยน์ที่ถูกถอนออกมีมากกว่าปริมาณที่ถูกฝากเข้ากระดานเทรดอย่างสม่ำเสมอ สถานการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นในช่วงที่บิตคอยน์ปรับตัวขึ้นในอดีต ทำให้มีแนวโน้มว่าราคาจะได้รับแรงหนุนในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าไม่ใช่ทุกกรณีที่การไหลออกของบิตคอยน์จากกระดานเทรดจะหมายถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง เนื่องจากบางส่วนอาจถูกโอนย้ายไปเก็บรักษาโดยกองทุน ETF หรือนักลงทุนสถาบัน หรืออาจเป็นการทำธุรกรรมในตลาด OTC ซึ่งไม่ได้กระทบต่อสภาพคล่องของตลาดโดยตรง ขณะนี้บิตคอยน์กำลังอยู่ในช่วงราคาสำคัญซึ่งอาจเป็นจุดชี้ขาดทิศทางของตลาดในอนาคต
หลังจากแตะจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 16 กันยายน บิตคอยน์ยังคงอยู่ในช่วงสะสม การเคลื่อนไหวนี้คล้ายกับพฤติกรรมในอดีตที่เคยเกิดขึ้นหลังจากราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนเข้าสู่ช่วงปรับฐาน ข้อมูลจาก ‘Choppiness Index’ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความผันผวนของราคา แสดงให้เห็นว่าความผันผวนรายวันอยู่ที่ระดับ 62 และรายสัปดาห์ที่ 72 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่านักลงทุนอาจต้องเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอนของตลาด
สำหรับแนวรับสำคัญของบิตคอยน์อยู่ที่ 92,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับราคาที่นักลงทุนระยะสั้นส่วนใหญ่ซื้อเข้ามา ในขณะที่แนวรับรองลงมาอยู่ที่ช่วง 80,000-89,000 ดอลลาร์ ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (EMA) สิ่งสำคัญที่ต้องจับตามองคือ ‘ความเป็นไปได้ของการหลอกทะลุแนวต้าน’ (Failed Breakout) ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการล่า ‘สภาพคล่อง’ (Liquidity Hunting) โดยบรรดานักเทรดที่ต้องการเคลียร์สถานะการถือครองตำแหน่งชอร์ต แนวโน้มดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความผันผวนรุนแรงในช่วงที่กำลังทดสอบแนวต้าน
ด้านเฮนเตอร์ ฮอร์สลีย์(Hunter Horsley) ซีอีโอของ ‘Bitwise’ ได้ออกมาคาดการณ์ว่าราคา บิตคอยน์ มีโอกาสพุ่งแตะ 1 ล้านดอลลาร์ในระยะยาว เขาระบุผ่านโพสต์บน ‘X’ ว่าการยอมรับบิตคอยน์โดยสถาบันและรัฐบาลทั่วโลกกำลังเติบโตขึ้น รวมถึงกองทุน ETF บิตคอยน์ที่ยังคงดึงดูดเงินทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เขายังเน้นว่าการนำบิตคอยน์มาใช้ในระบบการเงินจะมีแนวโน้มขยายตัวขึ้น พร้อมระบุว่า ปี 2025 อาจเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ของบิตคอยน์
แม้แนวโน้มบิตคอยน์ระยะยาวจะค่อนข้างสดใส แต่ราคายังอาจได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและภาวะเศรษฐกิจมหภาค อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากข้อมูล ‘On-chain’ และจิตวิทยาตลาด แนวโน้มภาครวมยังคงเอื้อต่อการเติบโตของบิตคอยน์ในระยะยาว
ความคิดเห็น 0