ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
StablecoinX เตรียมเข้าสู่ตลาดหุ้นแนสแด็ก (Nasdaq) ภายใต้ชื่อบริษัทใหม่ ‘StablecoinX Inc.’ ผ่านการควบรวมกิจการกับบริษัทสเป๊ก TLGY Acquisition Corp. โดยสามารถระดมทุนได้ถึง 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,004 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าโครงการที่เกี่ยวข้องกับโทเคน ENA ของแพลตฟอร์มคริปโตชื่อดังอย่าง ‘อีเธอนา(Ethena)’
ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้ความตั้งใจที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านการสเตกโดยเฉพาะสำหรับโปรโตคอลของอีเธอนา โดยหลังการควบรวม อีเธอนาไฟนานซ์จะยังคงถือสิทธิ์ออกเสียงใน StablecoinX ส่งผลให้ความร่วมมือมีทั้งความยืดหยุ่นและความมั่นคงในเชิงกลยุทธ์
เงินลงทุน 360 ล้านดอลลาร์นั้นประกอบด้วย PIPE (Private Investment in Public Equity) ที่มีทั้งเงินสดจำนวน 260 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,614 ล้านบาท) และ ENA โทเคนในราคาพิเศษที่ถูกล็อกวงเงินอีก 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,390 ล้านบาท) นักลงทุนที่ร่วมลงทุนรอบนี้ได้แก่ อีเธอนาไฟนานซ์, ริบบิท แคปิตอล, แพนเทอรา, ดรากอนฟลาย, แกแล็กซี่ ดิจิทัล, ฮอน เวนเจอร์ส และ โพลีเชน
อีเธอนาในปัจจุบันครองตำแหน่งผู้ให้บริการสเตเบิลคอยน์ออนเชนรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก โดยมีมูลค่าตลาดของ USDe ซึ่งเป็นเหรียญหลักของแพลตฟอร์มอยู่ที่ประมาณ 6.1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 84,790 ล้านบาท) เป็นรองเพียงแค่เทเธอร์(USDT) ที่ 162 พันล้านดอลลาร์ และ USD Coin(USDC) ของเซอร์เคิลที่ 64 พันล้านดอลลาร์
ความร่วมมือนี้ยังอยู่ภายใต้กรอบข้อตกลงพาร์ทเนอร์แบบต่ออายุได้ทุก 5 ปี พร้อมการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อกำกับการบริหารกองทุนสำรอง และมีกำหนดเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2025
StablecoinX ได้วางยุทธศาสตร์สำรองเตรียมไว้โดยใช้โทเคน ENA เป็นหลัก โดยจะนำเงินสดจำนวน 260 ล้านดอลลาร์ไปใช้ซื้อ ENA ผ่านสัญญาแบบล๊อกอัพ และอีเธอนาเองมีแผนจะซื้อ ENA จากตลาดเปิดในอัตราประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 695 ล้านบาท) ต่อวัน เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 8% ของปริมาณโทเคนที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด ทั้งนี้ StablecoinX ยืนยันว่า โทเคนที่ได้จะถูกถือครองระยะยาวและจะไม่จำหน่ายออกภายหลัง
ความคิดเห็น: กลยุทธ์ดังกล่าวสะท้อนโมเดลการสะสมสินทรัพย์คริปโตในลักษณะที่คล้ายกับกรณีของไมโครสแตรติจีที่ถือครองบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์หลัก ซึ่งในกรณีของ StablecoinX กำลังนำโมเดลเดียวกันมาใช้กับ ENA พร้อมเน้นบทบาทเป็น ‘ประตู’ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงตลาดสเตเบิลคอยน์ในรูปแบบของหุ้นจดทะเบียน
การเข้าสู่ตลาดทุนครั้งนี้ยังเป็นผลพวงจากพัฒนาการด้านกฎหมายของสหรัฐ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับคริปโตสามฉบับ หนึ่งในนั้นเน้นข้อกำหนดด้านทุนสำรองสำหรับผู้ออกสเตเบิลคอยน์และจัดระบบกำกับดูแล ซึ่งได้กลายเป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการหลังทรัมป์ประธานาธิบดีลงนามรับรอง
ขณะเดียวกัน บริษัทเซอร์เคิล(Circle) ก็เพิ่งเข้าตลาด NYSE โดยมูลค่าหุ้นวันแรกพุ่งทะลุราคา IPO กว่า 600% สะท้อนให้เห็นถึง ‘ความสนใจอันล้นหลามจากวอลล์สตรีท’ ที่มีต่อบริษัทสายสเตเบิลคอยน์
StablecoinX ตั้งเป้าที่จะยึดพื้นที่ผู้นำในอุตสาหกรรมสเตเบิลคอยน์ ด้วยโครงสร้างทุนที่อิงกับ ENA และความโปร่งใสผ่านการจดทะเบียนในแนสแด็ก เป็นก้าวที่หลายฝ่ายจับตามองในยุคที่คริปโตเริ่มก้าวเข้าสู่กระดานหลักของตลาดทุนทั่วโลก
ความคิดเห็น 0