ริปเปิล(XRP) พุ่งทะลุ $3.50 นักวิเคราะห์คาดอาจแตะ $15 หากผ่านแนวต้านสำคัญ

อัตราแลกเปลี่ยนของริปเปิล(XRP) พุ่งทะลุระดับ 3.50 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,865 บาท) ซึ่งเป็นสัญญาณของกระแสขาขึ้นที่ยังคงต่อเนื่อง ขณะที่นักวิเคราะห์คริปโตบางส่วนมองว่า *XRP มีโอกาสพุ่งแตะ 15 ดอลลาร์ (ราว 20,850 บาท)* ในระยะต่อไป โดยนักวิเคราะห์ชื่อดัง ‘อาลี(Ali)’ ระบุผ่านแพลตฟอร์ม X (อดีตทวิตเตอร์) ว่า XRP ได้ทะลุแนวต้านระยะยาวและกำลังเข้าสู่ช่วงแห่งความเป็นไปได้ในการทำ ‘ระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาล’

ตามการวิเคราะห์ของอาลี พบว่า XRP เคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มแบบสามเหลี่ยมมานานหลายเดือน ก่อนจะทะลุแนวรับสำคัญขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเขามองว่านี่คือสัญญาณชี้นำถึงจุดเปลี่ยนของตลาด ในชาร์ตรายสัปดาห์ของคู่ XRP/USDT ราคาทะลุผ่านแนวต้าน 3.50 ดอลลาร์ได้โดยมั่นคง และถือเป็นหนึ่งในสัญญาณเชิงเทคนิคที่นักลงทุนทั่วตลาดกำลังจับตามอง อาลีชี้ว่า “นี่เป็นรูปแบบ *ทะลุแนวต้านจากแท่งธงขาขึ้น (bullish flag)* อย่างชัดเจน” พร้อมคาดการณ์ว่าเป้าหมายถัดไปอาจแตะ 15 ดอลลาร์

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของ XRP พุ่งขึ้นไปกว่า 23% จนนักลงทุนเริ่มมีความหวังว่ามันอาจใกล้แตะระดับสูงสุดเก่าของปี 2018 ที่เคยขึ้นไปอยู่ที่ 3.84 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,338 บาท) เหลือระยะห่างเพียง 7.3% เท่านั้น หากมองในมุมของการวิเคราะห์ทางเทคนิค ปัจจุบัน XRP มีแนวโน้มเข้าสู่ *เฟสขาขึ้นรอบใหม่* หลังจากวิ่งสะสมในกรอบราคามาอย่างยาวนาน

อย่างไรก็ตาม มุมมองในตลาดยังคงแบ่งเป็นสองฝ่าย โดยกลุ่มผู้สนับสนุน XRP มั่นใจว่าโอกาสแตะ 15 ดอลลาร์ ‘อาจกลายเป็นจริง’ ขณะที่ผู้ลงทุนสายอนุรักษ์นิยมมองว่า “ความคึกคักในตอนนี้อาจเป็นเพียง *การคาดการณ์ที่เกินจริงเกินไปสำหรับระยะสั้น*”

ณ เวลาที่มีการรายงาน ราคา XRP เริ่มมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยลดลง 1.59% และอยู่ที่ระดับ 3.55 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,935 บาท) อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเชิงบวกจากภายนอกยังคงช่วยกระตุ้นความคาดหวังในหมู่นักลงทุน โดยเฉพาะรายงานที่ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) กำลังอยู่ระหว่างการ *พิจารณาอนุมัติ ETF ของ XRP* ซึ่งหากประกาศออกมาในเร็ว ๆ นี้ อาจทำให้เกิดแรงเหวี่ยงของราคาในตลาดอีกครั้ง

ปัจจุบัน XRP ยังคงครองตำแหน่งอันดับ 3 ของตลาดคริปโตตามมูลค่าตามราคาตลาด และหากได้รับไฟเขียวให้เข้าสู่ตลาด ETF ในประเทศสหรัฐฯ ได้จริง อาจเป็นตัวเร่งให้ *แนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางถึงยาวกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง*