ริปเปิล(XRP) มีแนวโน้มแตะ 4 ดอลลาร์อีกครั้ง ท่ามกลางแรงหนุนจากสภาพคล่องและโครงสร้างตลาด

ริปเปิล(XRP) ยังคงแสดงอาการแข็งแกร่ง แม้จะเผชิญกับแรงขายหลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกระตุ้นความคาดหวังของนักลงทุนว่า ราคามีโอกาสกลับขึ้นไปแตะระดับ 4 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.56 ล้านบาท) อีกครั้ง ท่ามกลางสัญญาณพื้นฐานที่บ่งบอกถึง ‘แนวโน้มการฟื้นตัวในเชิงโครงสร้าง’ ซึ่งหาได้ยากในภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้

หลังจากราคาของ XRP พุ่งขึ้นแตะระดับ 3.60 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.004 ล้านบาท) ราคากลับอ่อนตัวเล็กน้อยเพื่อปรับฐานตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม โครงสร้างของตลาดยังคงแสดงภาพ ‘แนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน’ ซึ่งแตกต่างจากการเด้งตัวทั่วไป ทั้งยังมีรูปแบบราคาบนกราฟที่สอดคล้องกับช่วงสะสมฐานในกรอบแคบ ซึ่งมักปรากฏในช่วงก่อนเกิดการปรับตัวขึ้นในระยะกลางถึงยาว

ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจัยพื้นฐานด้านเทคนิคยังได้รับการสนับสนุนจาก ‘สภาพคล่องของตลาด’ และแรงซื้อที่กระจายอย่างสม่ำเสมอ โดยในปัจจุบัน XRP ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีสมุดคำสั่งซื้อขาย (Order Book) ที่สมดุล นักลงทุนทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขายต่างมีความกระตือรือร้น ส่งผลให้การซื้อขายดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีเสถียรภาพมากขึ้น—ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยลดโอกาสเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง

แม้ปริมาณการซื้อขายจะยังไม่แตะระดับสูงสุดประจำปี แต่แนวโน้มของสภาพคล่องยังคงขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึง ‘การจัดพอร์ตเชิงกลยุทธ์ของสถาบัน’ หรือ นักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการไหลเข้าปัจจุบันอาจกลายเป็นแรงผลักสำคัญในการขับเคลื่อนขาขึ้นที่มั่นคงยิ่งกว่าเดิม ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า ปัจจัยนี้อาจช่วยให้แนวโน้มขาขึ้นมีความยั่งยืนมากกว่ารอบที่ผ่าน ๆ มา

ในมุมมองทางเทคนิค XRP ยังคงซื้อขายเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หลักอย่างมั่นคง ขณะที่ดัชนี RSI ยังไม่ส่งสัญญาณ‘ภาวะซื้อมากเกินไป’ ซึ่งหมายความว่ายังมีช่องว่างสำหรับการปรับตัวขึ้นอีก ทั้งนี้ ตราบใดที่ XRP ยังสามารถปิดเหนือระดับแนวรับสำคัญในช่วง 2.90–3.00 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.03–4.17 ล้านบาท) ความเป็นไปได้ที่จะทดสอบระดับ 4 ดอลลาร์อีกครั้งยังคงอยู่ในกรอบคาดการณ์ที่เป็นไปได้

กล่าวโดยสรุป ปัจจุบัน XRP ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเพียง ‘กระแสเก็งกำไร’ แต่ยังได้รับแรงหนุนจาก ‘โครงสร้างการซื้อขายเชิงกลยุทธ์’ และทิศทางตามการวิเคราะห์เชิงเทคนิคอย่างสอดคล้อง ส่งผลให้โอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4 ดอลลาร์ มีความเป็นไปได้มากขึ้นและเป็นเป้าหมายที่ ‘จับต้องได้’ มากกว่าที่เคย