ทรัมป์ส่งสัญญาณแข็งกร้าวต่อรัสเซีย-อิหร่าน เพิ่มแรงกดดันบิตคอยน์(BTC) หวั่นตลาดผันผวนหนัก

ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงจุดยืนอย่างแข็งกร้าวต่อรัสเซียและอิหร่าน ซึ่งสร้างความกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจเพิ่ม *ความผันผวนของตลาดคริปโต* โดยเฉพาะตลาด *บิตคอยน์(BTC)* ที่กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ทรัมป์กล่าวว่า รัสเซียควรจัดทำ *ข้อตกลงสันติภาพ กับยูเครนภายใน 10 ถึง 12 วัน* แทนระยะเวลาผ่อนผัน 50 วันตามที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมแสดงความผิดหวังต่อความล้มเหลวในการเจรจา นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเตือนอิหร่านว่าหากเริ่มดำเนินโครงการนิวเคลียร์อีกครั้ง *สหรัฐฯ จะ ‘ตอบโต้ทันที’* ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ของการใช้กำลังทางทหาร

ความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์มองว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์รอบใหม่นี้ กำลังกลายเป็น *ความเสี่ยงใหม่* ให้กับตลาดคริปโตที่กำลังเปราะบาง นักลงทุนบางรายแสดงความเห็นว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจกระตุ้นการเคลื่อนย้ายเงินจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย กระทบต่อ *บิตคอยน์ในระยะสั้น*

ในวันเดียวกัน บิตคอยน์ไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 120,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.66 ล้านบาท) ได้ และปรับตัวลดลงมายืนที่บริเวณ 118,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.65 ล้านบาท) โดยได้ปิดช่องว่างราคาระหว่างวัน (CME Gap) แล้ว

มิคาเอล ฟาน เดอ ป็อป(Michaël van de Poppe) นักวิเคราะห์ชื่อดัง ระบุว่า “แรงเทขายที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียง *การปรับฐานก่อนเดินหน้าแตะจุดสูงสุดใหม่*” แต่ก็เตือนว่าหากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศยังคงดำเนินต่อไป *ภาวะตลาดขาลงระยะสั้นก็อาจเกิดขึ้นได้*

แม้ในช่วงหลังความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะคลี่คลายลง และทำให้บิตคอยน์ปรับขึ้นจนเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง แต่หาก *ความขัดแย้งทางทหารปะทุขึ้นอีกครั้ง* ความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตก็อาจสั่นคลอนอย่างหนัก

ตลาดยังต้องติดตามคำแถลงอย่างเป็นทางการจาก *ทรัมป์* ที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยตัวแปรสำคัญต่อแนวโน้มของ *บิตคอยน์(BTC)* ในระยะถัดไป